• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 6 บทที่ 3

    “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” กุ้ยตันเหลยกล่าว “ข่าวขององครักษ์เสื้อแพรมาจากที่ใด…ในตอนที่รู้ว่าเจ้าสำนักออกจากขุนเขานั้นก็มีเพียง…คนบนเขาอู่ตัง…”

    เหยาเหลียนโจวมองหน้ากับซือซิงเฮ่าแวบหนึ่ง

    …ในสำนักอู่ตังมีสายลับของราชสำนัก เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล็ก

    “ศิษย์เองก็ไม่อยากเชื่อ” กุ้ยตันเหลยเผยสีหน้าเจ็บใจออกมา “อย่างไรก็เป็นสหายร่วมสำนักที่หลั่งเลือดหลั่งเหงื่อด้วยกันมาทุกเช้าค่ำ…”

    “บนเขาอู่ตังมีหูตาขององครักษ์เสื้อแพร นั่นยังมิใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมายอะไร” ซือซิงเฮ่าขมวดคิ้วกล่าว “หากข้าเป็นเฉียนหนิงหรือเจียงปินก็จะทุ่มเทส่งเข้ามาสักคนสองคน สิ่งที่ข้ากังวลอย่างแท้จริงคือ…”

    “มัน” เหยาเหลียนโจวกล่าวเสียงเย็นชา

    เจ้าสำนักกล่าวคำเดียวอย่างง่ายดายเช่นนี้ กุ้ยตันเหลยก็เข้าใจว่าหมายถึงใครในทันที

    …รองเจ้าสำนักท่านนั้น ศิษย์ทรยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งสำนักอู่ตัง

    “ข้าสั่งการไปยังฝานจง” เหยาเหลียนโจวกล่าว “ให้ลอบตรวจสอบคนที่เกี่ยวข้องกับ ‘มัน’ ทั้งหมด”

    ซือซิงเฮ่าเสนอความคิดเห็น “เจ้าสำนักโปรดกระทำการอย่างรอบคอบ ให้แน่ใจถึงความเคลื่อนไหวของคนในราชสำนักเสียก่อนว่ามีความเกี่ยวข้องกับ ‘มัน’ จริงหรือไม่ อย่าได้ใจร้อนเกินไปจนกระชากตัวสายลับผู้นั้นออกมา มิเช่นนั้นจะสืบข้อเท็จจริงออกมามิได้”

    กุ้ยตันเหลยพยักหน้าเห็นด้วย ผ่านอันตรายที่ซีอานในครั้งนี้ทำให้มันรู้ตัวว่าประสบการณ์ในยุทธภพและความคิดอ่านยังไม่เพียงพอ สมควรฟังความคิดเห็นของซือซิงเฮ่าและเยี่ยเฉินยวนให้มาก

    เหยาเหลียนโจวลุกขึ้นยืน แหงนมองเทพเสวียนอู่ที่ใช้โฉมหน้าของปรมาจารย์จางซานเฟิงเป็นเค้าโครงองค์นั้น ดวงตาของเทพก็ราวกับกำลังก้มมองมันอยู่

    มันหวนระลึกถึงกงซุนชิงอาจารย์ที่เคารพ ความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของอู่ตังปลูกฝังมาจากในรุ่นนั้นของอาจารย์ เหยาเหลียนโจวตัดสินใจจะทำให้สำเร็จในรุ่นของตนเอง

    ไม่ว่าผู้ใดล้วนมิอาจหยุดยั้ง สามข้อบัญญัติอู่ตังเขียนไว้อย่างชัดเจนยิ่งแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเทพมารก็ต้องสังหารมัน นับประสาอะไรกับเป็นมนุษย์ ต่อให้คู่ต่อสู้จะมีอำนาจล้มใต้หล้าก็ต้องไม่ยอมจำนนเป็นอันขาด เพื่อแสวงหามรรคาบนโลกด้วยตนเอง

    นี่แหละคืออู่ตัง

     

    นี่เป็นเพียงครั้งที่สองที่โหวอิงจื้อก้าวเข้าสู่ตำหนักเจินเซียน ถึงแม้เคยเห็นแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่มองเห็นอำนาจอันเหนือล้ำของรูปปั้นเทพทองคำนั้นก็อดมิได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง

    เจ้าสำนักเหยานั่งขัดสมาธิอยู่บนกระดองสัตว์เทพเต่างูที่รูปปั้นเทพเอาเท้าเหยียบ โหวอิงจื้อเงยมองมัน มองใกล้ๆ ยิ่งเห็นได้ชัดว่าเยาว์วัย…แม้โหวอิงจื้อจะรู้ว่าเจ้าสำนักอายุสามสิบสองปีแล้วก็ตาม

    ก่อนเข้ามาในตำหนักเจินเซียน โหวอิงจื้อกำลังเดาว่าเพราะเหตุใดเจ้าสำนักเหยาจึงตั้งใจเรียกพบตนเอง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook