• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 14 ตอนที่ 3

    บทที่ 3 ลูกผู้อาภัพ

     

    ภายใต้ความเงียบจนได้ยินเสียงเข็มตกและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดัน กอปรกับการถูกสายตาทุกคู่มองมาเป็นจุดเดียว พู่กันเรียวยาวเริ่มตวัดช้าลงจนหยุดนิ่งในที่สุด อวี๋เหลียนมองตัวอักษรบรรจงบนกระดาษแล้วพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นพาดพู่กันกับจานฝนหมึก เงยหน้าขึ้นสบสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังรอคอยของทุกคน

    “พวกท่านผิดด้วยกันทั้งคู่”

    สมกับเป็นศิษย์พี่สามที่จอมปราชญ์ให้ความชื่นชม ไม่พูดจาให้มากความ บอกกล่าวคำตัดสินอย่างตรงไปตรงมาทันที อวี๋เหลียนกล่าวกับศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    “ต่อให้พวกท่านยึดมั่นในความคิดเห็นของตัวเองสักเพียงใด ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องว่าผู้ใดควรจะเป็นคู่ครองที่เหมาะสมของศิษย์น้องเล็ก ที่ว่าเหมาะสมนั้นต้องอาศัยความรู้สึก แต่พวกท่านไม่ใช่ศิษย์น้องเล็ก จะไปเข้าใจความรู้สึกของมันได้อย่างไร”

    ศิษย์พี่รองนิ่วหน้าแย้งมาว่า

    “ศิษย์น้องเล็กเป็นเด็กกำพร้า ไร้บิดามารดาและญาติสนิท พวกเราคือครอบครัวของมัน การแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่ อาจารย์กับพวกเราศิษย์พี่ย่อมต้องเป็นคนจัดการให้”

    อวี๋เหลียนยิ้มพลางกล่าวว่า

    “ดังนั้นข้าถึงบอกอย่างไรเล่าว่าพวกท่านน่ะผิดแล้ว ผิดเพราะพวกท่านไม่เข้าใจในตัวมัน ข้าเคยเห็นมันฝืนสังขารเดินขึ้นชั้นสองของหอจิ้วซูไม่เว้นแต่ละวัน เห็นมันกระอักเลือดหมดสติไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เห็นมันนั่งปักหลักอยู่ริมหน้าต่างพยายามจะอ่านหนังสือให้ได้จนร่างกายผ่ายผอมซูบเซียวลงทุกวัน จากจุดนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ในวังจะพระราชทานงานมงคล หรือเรื่องที่ศิษย์พี่อย่างพวกเราจะเลือกว่าที่ภรรยาให้กับมัน เกรงว่าแม้แต่อาจารย์เองก็คงบอกให้มันไปแต่งกับบุตรสาวของเฮ่าเทียนไม่ได้หากมันไม่เต็มใจ”

    นางหันไปกล่าวกับศิษย์พี่ใหญ่

    “เส้นทางเดินของคนเราต้องให้เจ้าตัวเลือกเดินเอง เลือกไปแล้วจะดีหรือร้าย จะต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงสักเพียงใด ก็เป็นเรื่องของคนผู้นั้นที่จะต้องเรียนรู้และแบกรับเอาเอง ข้าเชื่อว่าอาจารย์ก็ต้องมีความคิดเห็นเช่นนี้เหมือนกัน”

    พูดจบนางก็เก็บข้าวของเดินออกจากเรือนไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก ชุดสถานศึกษาตัวหลวมที่สวมอยู่บนร่างแน่งน้อยสะบัดพลิ้วตามลมขณะค่อยๆ ลับหายไปในความมืด

    เมื่อครู่ที่เกิดความขัดแย้งเป็นเพราะคำพูดของศิษย์พี่ใหญ่ฟังดูคลุมเครือเข้าใจยาก คำพูดของศิษย์พี่รองก็คล้ายเก็บๆ งำๆ ไม่กระจ่าง บัดนี้ศิษย์พี่สามยังมาอ้างหลักปรัชญาอันเลื่อนลอย แสดงว่าพวกมันทั้งสามจะต้องรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เพียงแต่ไม่คิดจะบอกกล่าวให้คนที่เหลือซึ่งต่างก็กำลังงงเป็นไก่ตาแตกฟัง

    ศิษย์พี่สามจากไปได้ครู่หนึ่งแล้ว แต่ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองต่างก็ยังคงเงียบงัน เหล่าศิษย์น้องจึงค่อยๆ แยกย้ายกันไป เหลือเพียงศิษย์พี่เจ็ดมู่โย่วที่เดินเข้าไปเอาน้ำร้อนมาเติมใส่กาน้ำชาให้จนเต็ม

    เปลวเทียนสั่นไหวเบาๆ เสียงน้ำตกตกกระทบสระด้านหลังเรือนน้อยดังซู่ซ่า มิทราบว่าผ่านไปนานเท่าใด ศิษย์พี่ใหญ่จึงค่อยลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าอ่อนล้า ศิษย์พี่รองรีบลุกตามพลางก้มคารวะอย่างนอบน้อม

    ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวว่า

    “ในเมื่อนางพูดเช่นนั้นก็ดูท่าว่าเจ้ากับข้าจะผิดไปจริงๆ แต่ข้ายังคงยืนยันในความคิดเห็นของตัวเอง อีกอย่าง ข้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่าในเมื่อมันก็ชอบพอในตัวซันซัน แล้วยังมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เลือกนาง”

    ศิษย์พี่รองตอบ

    “อาจเป็นเพราะมันมิอาจปล่อยวางจากซังซัง”

    ศิษย์พี่ใหญ่พลันนึกถึงความเป็นไปได้เรื่องหนึ่ง ขมวดคิ้วถามว่า

    “เจ้าว่าศิษย์น้องเล็กจะยอมแต่งกับพวกนางทั้งสองคนเลยหรือไม่”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook