ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 15 ตอนที่ 2

ตำราสองเล่มนี้ล้วนเป็นสุดยอดวิชาที่หาค่ามิได้ของสถานศึกษา เป็นตำราที่จอมปราชญ์ตั้งใจคัดเลือกมาให้ศิษย์เช่นมันเรียน ตามหลักแล้วหนิงเชวียไม่สมควรให้ซังซังอ่าน แต่มันเคยชินเสียแล้วที่จะแบ่งปันสิ่งดีๆ กับนาง กระทั่งบางครั้งยังจัดลำดับนางไว้ก่อนตัวเองอีกด้วย

อีกอย่าง มันยากจนข้นแค้นมาตั้งแต่เด็ก ต้องอยู่อย่างปากกัดตีนถีบ แม้ตอนนี้มิต้องกลัดกลุ้มเรื่องที่เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ อีก แต่ก็ยังคงติดนิสัยเอาเปรียบผู้อื่นอยู่ไม่สร่าง

หนิงเชวียตอบ

“นี่เป็นของดี ถ้าเจ้าไม่อ่านก็ขาดทุนแย่”

ซังซังก็คิดแบบเดียวกัน แต่ยังเป็นกังวล

“ข้าจะอ่านเข้าใจหรือ”

หนิงเชวียปลอบ

“กระทั่งต้าเสินกวนหน่วยแสงสว่างยังรับเจ้าเป็นผู้สืบทอด แสดงว่าจะต้องเห็นพรสวรรค์ในการฝึกฌานของเจ้า ไม่แน่ว่าพรสวรรค์ที่เจ้ามีอาจจะมากกว่าข้ากับผีผีก็ได้ หลายปีที่เจ้าติดตามข้า ข้ากลับมองไม่เห็นถึงจุดนี้ ดีไม่ดีอาจเป็นการกลบฝังความเป็นอัจฉริยะของเจ้าไป”

ซังซังหัวเราะเสียงดัง

“นายน้อย ท่านล้อข้าเล่นแล้ว”

หนิงเชวียยิ้มทะเล้น

“คิดมากทำไม เจ้ามองแค่ปราดเดียวก็ถือว่าพวกเราได้กำไรแล้ว”

ซังซังรู้สึกว่ามีเหตุผล จึงรับตำราไปอ่านอย่างจริงจัง

ส่วนหนิงเชวียก็อ่าน ‘ต้นกำเนิดลมหายใจแห่งฟ้าดิน’ ต่อ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าการที่อาศรมเทพสั่งทำลายและห้ามเผยแพร่ตำรานี้มีเหตุผลยิ่ง เพราะตำราเล่มนี้ถึงกับกล้ายึดถือเอาวิธีฝึกฌานของพรรคมารที่ดึงเอาพลังปฐมแห่งฟ้าดินเข้าสู่ร่างกายเป็นแบบอย่างเดียวกันกับแสงเจิดจรัสของเฮ่าเทียน มั่นใจถึงขั้นว่าทั้งสองไม่มีความแตกต่างอะไรที่เป็นแก่นสาร

ทันใดนั้นแววตามันก็เปล่งประกายเจิดจ้า เพราะที่ท้ายเล่มมันพบเจอวิธีเพาะเลี้ยงลมปราณวิธีหนึ่ง!

ตอนรับช่วงบาตรและจีวรของอาจารย์อาในสำนักพรรคมาร หนิงเชวียอาศัยเจตนารมณ์กระบี่ที่อาจารย์อาทิ้งไว้ในรอยกระบี่บนผนังห้องทะลวงเปิดช่องระหว่างชี่ไห่กับเสวี่ยซาน จากนั้นลมปราณสุดไพศาลก็ทะลักพรั่งพรูเข้าสู่ร่าง กระตุ้นลมปราณตรงท้องน้อยให้เริ่มไหลเวียนดึงเอาพลังปฐมแห่งฟ้าดินที่อยู่รอบตัวเข้าสู่ร่างกาย

ทว่าแม้มันจะสามารถใช้พลังจิตกระตุ้นลมปราณตรงท้องน้อยให้ดึงพลังปฐมแห่งฟ้าดินเข้าสู่ร่างได้ก็จริง แต่มันมิอาจควบคุมขั้นตอนต่อจากนั้นได้ และยิ่งไม่รู้วิธีที่จะปรับเปลี่ยนให้ขั้นตอนเหล่านี้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

หากวิธีเพาะเลี้ยงลมปราณในตำราเล่มนี้ใช้ได้ผลจริง ก็หมายความว่าการฝึกลมปราณสุดไพศาลของมันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นจนทำให้มันสามารถยกระดับด่านฌานขึ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้นใช่หรือไม่

มือที่ถือตำราของมันสั่นระริก บัดนี้ความแตกตื่นและความซาบซึ้งใจที่มีต่อจอมปราชญ์และศิษย์พี่สามได้เข้าแทนที่ความคับแค้นกลัดกลุ้มที่ถูกขังไว้ในถ้ำจนหมดสิ้น

แม้แต่ตำราของสถานศึกษา มันยังแบ่งปันให้ซังซัง มิต้องสงสัยเลยว่าความเบิกบานใจและผลประโยชน์ที่เก็บเกี่ยวได้อย่างมหาศาลในครั้งนี้มันจะไม่แบ่งปันให้นางด้วย ทว่าตอนที่มันหันไปหาซังซังกลับพบว่านางได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว!

ร่างเล็กๆ นั้นกอดตำรานั่งหลับได้โดยไม่ต้องพิงผนังถ้ำ หนิงเชวียเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ คิดในใจ ดูท่านางหนูนี่คงจะไม่เหมาะกับการฝึกฌาน อย่างน้อยที่แน่ๆ ก็คือนางไม่ใช่คนประเภทชอบอ่านตำรา

หนิงเชวียหันกลับมารวบรวมสมาธิอ่านวิธีเพาะเลี้ยงลมปราณตั้งแต่ต้นจนจบโดยละเอียด จนแน่ใจว่าสามารถจดจำได้ทุกตัวอักษร จึงค่อยปิดตาลงช้าๆ

มันเริ่มเพาะเลี้ยงลมปราณเป็นครั้งแรก และที่เพาะเลี้ยงก็คือลมปราณสุดไพศาล!

โปรดติดตามตอนต่อไป…