• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 3

    (6)

     

    เมืองฉางอันอากาศร้อนชื้นอบอ้าวเกินทน ร้อนเกินกว่าคนจะข่มตาหลับ

    พระราชวังต้าหมิง ตั้งอยู่บนที่ราบเนินหลงโส่วทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฉางอัน เทียบกับที่อื่นๆ แล้วอากาศนับว่าเย็นสบายกว่ามาก แต่ถึงกระนั้นองค์จักรพรรดิเซี่ยนจงหลี่ฉุนก็ยังคงเหมือนกับทุกครั้ง ไม่อาจข่มพระเนตรได้ลง

    จักรพรรดิเซี่ยนจงทรงกลัดกลุ้มเพราะเรื่องสงครามปราบปรามอำนาจผู้ครองหัวเมืองชายแดนเป็นอันมาก นับแต่วันแรกที่ขึ้นครองราชย์ เรื่องชวนปวดหัวพวกนี้ก็เฝ้าตามติดพระองค์มาโดยตลอด ตลอดสิบปีมานี้ ทรงพบว่าเรื่องน่ากลัดกลุ้มรำคาญใจเหล่านี้ได้หลอมรวมกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวพระองค์เองไปจนสิ้น กลายเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวของประมุขแห่งแผ่นดินต้าถังองค์ที่สิบเอ็ดอย่างตนไปเรียบร้อยแล้ว

    ต่างจากข้อความสรรเสริญเยินยอพระเกียรติพระนามในศาลบรรพชนพวกนั้น สัญลักษณ์แทนองค์ประมุขของแผ่นดินกลับเป็นเรื่องอันควรหรือไม่ควรในสมัยนั้นๆ ที่ผู้คนนึกถึงเป็นลำดับแรกยามเมื่อเอ่ยถึงแต่ละพระองค์ อย่างเช่นถังเสวียนจงมักถูกโยงเข้ากับ ‘รุ่งเรืองถึงขีดสุดย่อมเสื่อมทราม’ และ ‘หยางอวี้หวน’*ยิ่งเทียบกับจักรพรรดิเต๋อจง เกรงว่าแม้แต่ตัวจักรพรรดิเซี่ยนจงหลี่ฉุนเอง ขอเพียงนึกถึงพระอัยกาของเขาคนนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องนึกถึงคำว่า ‘คนถ่อยกุมอำนาจ’ ต่อให้พระบิดาเติมคำว่า ‘คุณธรรม’ เพื่อเป็นการเพิ่มเติมเกียรติภูมิให้กับพระอัยกาลงบนศาลบรรพชนอย่างไรก็ยังคงไร้ประโยชน์อยู่ดี

    ในเมื่อตลอดพระชนม์ชีพทรงทุ่มเทไม่เคยแยกจากการปราบปรามอำนาจของเหล่าผู้ครองหัวเมืองชายแดน เช่นนั้นแล้วเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่คนกล่าวถึงจักรพรรดิเซี่ยนจง จึงมีแต่ต้องทำให้สำเร็จไม่อาจล้มเหลวได้เด็ดขาด ความจริงแล้วนับแต่วันขึ้นครองราชย์ พระองค์ก็ทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่ที่จะ ‘แม้นต้องเผชิญหน้ากับผู้คนนับพันหมื่น ข้าก็ยังจะคงมุ่งหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง’ หมายมั่นปั้นมือที่จะปราบปรามอำนาจผู้ครองหัวเมืองชายแดนทั้งหลายให้ลุล่วง ขุนนางจำนวนมากไม่เข้าใจ มักคิดว่าผู้เป็นประมุขปกครองใต้หล้าหามีความจำเป็นอันใดต้องผลักดันตนเองให้เข้าสู่ทางตัน มีเพียงจักรพรรดิเซี่ยนจงเท่านั้นที่ทรงรู้แก่พระทัยดีว่าตั้งแต่แรกพระองค์ก็ไม่เคยคิดเตรียมทางหนีทีไล่อื่นไว้

    จักรพรรดิเซี่ยนจงหลี่ฉุนทรงเคยเห็นว่าพระอัยกาและพระบิดาเป็นจักรพรรดิแบบไหน และทรงเข้าใจสัจธรรมข้อหนึ่งจากทั้งสองพระองค์… บนโลกใบนี้จักรพรรดิเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีทางให้ถอยหนี

    หาไม่แล้วไหนเลยจะมีคำพูดที่ว่า ‘ผู้โดดเดี่ยวคนเดียวดาย’**ได้

    ผู้คนมากมายคัดค้านไม่เห็นด้วยกับพระองค์ และมีคนเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ให้การสนับสนุน แต่ว่า…นับแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีใครแม้แต่คนเดียวที่เข้าใจพระองค์ได้อย่างถ่องแท้

    เพราะคนเหล่านั้นไม่ใช่จักรพรรดิ

    หลังจากเป็นจักรพรรดิมาสิบปี ปราบปรามอำนาจของเหล่าผู้ครองหัวเมืองชายแดนมาตลอดสิบปี องค์จักรพรรดิเซี่ยนจงหลี่ฉุนก็พบว่าการตัดสินใจของพระองค์นั้นมิได้ไหวหวั่นสั่นคลอน ยิ่งไปกว่านั้นนิสัยเจ้าอารมณ์ของพระองค์นับวันกลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที แม้แต่ประสาทสัมผัสที่มีต่อความจงรักภักดีและความกลับกลอกของผู้คนรอบข้างก็มีแต่จะฉับไวมากขึ้นเรื่อยๆ

    *หยางอวี้หวน หรือหยางกุ้ยเฟย อัครชายาในจักรพรรดิถังเสวียนจง ผู้ทำให้จักรพรรดิลุ่มหลงจนไม่ออกประชุมเช้า เป็นที่ครหาในหมู่ขุนนาง และพาให้ราชสำนักเสื่อมถอย

    **ผู้โดดเดี่ยวคนเดียวดาย แปลจากคำว่ากูจยา (ผู้อยู่โดดเดี่ยวลำพัง) และกว่าเหริน (คนเดียวดายอ้างว้าง) เป็นคำที่จักรพรรดิใช้เรียกแทนตัวเอง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook