• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 5

    คนผู้นี้…ท่าทางซื่อๆ สุภาพเรียบร้อย นึกไม่ถึงว่าจะแอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นกับชาวบ้านด้วยเหมือนกัน

    ครั้นเปิดถุงไหมออกดู เผยเสวียนจิ้งก็ต้องตกใจ ไม่ว่าจะเช่นไรนางก็ไม่มีทางนึกถึง บัณฑิตที่เหมือนมือไม้ไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะจับไก่ผู้นี้ ของหมั้นหมายที่เขามอบให้นางกลับเป็นมีดสั้นประกายเย็นเยียบด้ามหนึ่ง ของหมั้นหมายที่เขาควรส่งมอบให้นางน่าจะเป็นบทกวีที่ทั้งง่ายต่อการแสดงความสามารถ อีกทั้งยังสมกับฐานะมิใช่หรอกหรือ ต้องรู้ไว้ว่าเพียงอายุสิบแปดเขาก็แสดงสติปัญญาโดดเด่น ความสามารถด้านบทกวีออกมาให้ผู้คนประจักษ์ได้แล้ว

    เผยเสวียนจิ้งที่อายุสิบห้าไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก ได้แต่พลิกตัวไปมาพินิจพิจารณาดูมีดในมือ นางไม่คุ้นเคยกับศาสตราวุธ นอกจากจะรู้สึกว่ามีดเล่มนี้น้ำหนักเบากะทัดรัดแล้ว นางก็ดูไม่ออกว่ามันมีอะไรตรงไหนพิเศษ ตัวดาบสีและความวาวค่อนไปทางหม่น บนด้ามดาบตรงจุดที่เดิมน่าจะมีเครื่องประดับจำพวกอัญมณีฝังอยู่นั้นว่างเปล่า ส่วนลวดลายที่เคยมีอยู่บนปลอกที่ทำจากหนังเองก็เลือนหายไปตามกาลเวลา เหลือไว้ก็เพียงลายเส้นหนังที่ดูคล้ำยิ่ง แม้ไม่อาจบอกได้ว่าทำมาจากหนังของสัตว์ชนิดใด แต่ด้วยลางสังหรณ์บางอย่าง นางจึงมั่นใจว่ามีดเล่มนี้ย่อมเป็นของที่มีความสำคัญยิ่งยวด ความเรียบง่ายของมันไม่เพียงทำให้มันแลดูลึกลับ หนำซ้ำยังยืนยันให้เห็นชัดว่ามันมีราคาค่างวดเหลือประมาณ

    เผยเสวียนจิ้งเก็บมีดสั้นนี้ไว้อย่างทะนุถนอม ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ผู้ใดล่วงรู้ มีแต่ยามค่ำคืนผู้คนเงียบสงัดเท่านั้น นางถึงจะไปซ่อนตัวอยู่บนตั่งเตียงหลังบังตา หยิบเอามีดเล่มนี้ออกมาพินิจพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แอบนึกจินตนาการด้วยใจหวาม ไว้วันที่ได้ผูกใจรักชั่วกัลปาวสานร่วมกับเขามาถึง นางจะต้องให้เขาเอ่ยปากเล่าความลับของมีดเล่มนี้ออกมาให้จงได้ นางเชื่อว่ามันต้องเป็นตำนานที่งดงามแฝงไว้ซึ่งความหมายลึกซึ้ง เฉกเดียวกับบทกวีที่รจนาผ่านปลายพู่กันของเขาพวกนั้น

    ผ่านไปแล้วถึงเจ็ดปี จวบจนถึงวันนี้ วันที่ว่านั้นก็ไม่เคยมาถึง และไม่อาจมาถึงได้ชั่วนิรันดร์…

    คิดถึงตรงนี้ ใจของเผยเสวียนจิ้งก็อดร้าวรวดขึ้นมาไม่ได้

    “ว้าย คุณหนู มือของท่านเลือดออกแล้ว!” อาหลิงที่เพิ่งย่างเท้าเข้ามาในห้องอุทานร้องตกใจ

    พอได้ยินเสียงของอาหลิง เผยเสวียนจิ้งถึงรู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายนิ้ว

    “คุณหนู ท่านเอามีดมาจากไหน!”

    เผยเสวียนจิ้งรีบวางมีดสั้นในมือลง นางเห็นบนใบมีดสีเข้มมีแต้มเลือดสีแดงหยดหนึ่ง ดูราวกับบุปผาดอกน้อยผลิบานอยู่บนโลหะสำริดโบราณ นางเก็บมีดเข้าฝัก ก่อนจะพูดราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เป็นมีดที่ข้าพกติดตัวมาจากบ้าน เผื่อเอาไว้ใช้ป้องกันตัว เมื่อครู่ตอนหยิบออกมาดู เผลอใจลอยไปหน่อยเลยถูกบาดเข้า”

    อาหลิงใช้ผ้าช่วยซับเลือดให้เผยเสวียนจิ้ง โชคดีที่แผลแค่เพียงเล็กน้อยไม่ใหญ่โตอะไร เลือดหยุดลงแทบจะในทันที นางพูด “ทำเอาข้าตกอกตกใจหมด คุณหนูระวังตัวหน่อย ของมีคมแบบนั้น แค่เห็นข้าก็กลัวแล้ว“

    “ครั้งนี้โชคดีที่มีมันติดตัวมาด้วย” เผยเสวียนจิ้งพึมพำพูด

    ม้าตื่นนอกประตูทงฮว่าของนางวิ่งเตลิดมาตลอดทาง ส่วนสารถีเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รถม้าวิ่งวุ่นโกลาหล พร้อมพุ่งชนล้มคว่ำได้ทุกเมื่อ ความเป็นความตายของพวกนางราวกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย

    ภายใต้สถานการณ์ล่อแหลมอย่างที่สุด เผยเสวียนจิ้งใช้มีดสั้นในมือตัดเชือกหนังที่สวมหัวม้าออก เพราะมีแต่ปล่อยม้าตื่นตัวนี้ไปเท่านั้น นางกับสารถีถึงจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้

    นั่นนับเป็นครั้งแรกที่เผยเสวียนจิ้งใช้มีดเล่มนี้จริงจัง ตอนนั้นสถานการณ์คับขัน นางไม่มีเวลาฉุกคิดอะไรมากมายนัก แต่คำพูดของอาหลิงในเวลานี้กลับทำให้นางนึกขึ้นได้ว่ามีดสั้นเล่มนี้คมกริบกว่ามีดดาบธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เชือกหนังสวมหัวม้าที่ใช้กันทั่วไปล้วนหนาแน่นแข็งแรง มีดทั่วไปไม่มีทางตัดขาดได้ แต่มีดเล่มนี้เพียงกรีดก็ทำให้พวกมันขาดสะบั้นออกจากกันโดยง่าย

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook