• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 5

    ดังนั้นอัครเสนาบดีจึงเป็นฝ่ายเริ่มต้นเอ่ยปากโอภาปราศรัยกับเผยเสวียนจิ้ง “ได้ยินท่านอาเจ้าพูดถึงความสามารถในการตัดสินคดีของเจ้ามาไม่น้อย แค่เห็นเพียงแวบเดียวก็รู้ได้แล้ว ทั้งหมดมิได้เป็นการโอ้อวดเกินเลยแต่อย่างใด”

    “ใต้เท้าอู่ชมเกินไปแล้ว”

    “เพียงแต่…น่าเสียดาย”

    “เพียงเพราะผู้น้อยเป็นสตรี?”

    เผยตู้พูด “เสวียนจิ้ง!”

    อู่หยวนเหิงกลับยิ้มบางๆ “จริงอยู่ที่ผู้คนมากมายอาจคิดเช่นนั้น แต่ข้าไม่เหมือนกับพวกเขา”

    ความจริง ในอดีตข้าหลวงต่างพระองค์แห่งผูโจวก็ยังเคยทอดถอนใจเช่นนี้กับเผยเซิงมาก่อน ด้วยปัญญาความสามารถของเผยเสวียนจิ้ง หากแม้นเป็นชาย รับรองว่าต้องได้เข้าเป็นขุนนาง ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองในชีวิตราชการได้ไม่ยาก แต่ในเวลานี้ความสามารถที่นางมีกลับเป็นเพียงปิ่นประดับหน้าตาเท่านั้น ไม่อาจกลายเป็นอาหารจานหลักได้ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก

    เผยเสวียนจิ้งเองก็รู้ คำพูดของอู่หยวนเหิงย่อมมิได้มีความหมายเช่นนั้น แค่เพียงฐานะราชปนัดดาขององค์จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน อู่หยวนเหิงก็ไม่มีทางมีความคิดเห็นคับแคบต่อความสามารถของสตรีได้ ยิ่งไปกว่านั้นนางในดวงใจของเขาก็ยังเป็นเซวียเทา กวีหญิงมากสามารถอีกด้วย…

    เผยเสวียนจิ้งรู้สึกได้ว่าอัครเสนาบดีผู้นี้กำลังพินิจพิจารณานางอยู่ เช่นนั้นนางก็ต้องแสดงความสามารถออกมาให้ดีที่สุด โอกาสเช่นนี้นับว่าหายากยิ่งนัก

    เผยเสวียนจิ้งพูด “ผู้น้อยยินดีรับฟังคำชี้แนะจากใต้เท้าอู่”

    อู่หยวนเหิงพูดแฝงความหมายลึกซึ้ง “จวงจื่อกล่าว ฮุ่นตุ้นปกครองดินแดนใจกลาง* ทุกวันเทพไท้ช่วยมันเจาะทวารหลังเจ็ดวันทวารทั้งเจ็ดถูกเปิด ฮุ่นตุ้นกลับสิ้นใจ ดังนั้นเหล่านักพรตจึงเชื่อว่าทุกสรรพสิ่งล้วนส่งผลกระทบถึงกันเป็นสายระโยง ทั้งเพิ่มและลดทอนกันและกัน ด้วยเหตุนี้จึงควรปกครองโดยไม่ทำอันใดฝืนธรรมชาติ แก่นสารสำคัญของเรื่องนี้เกรงว่าจะตรงกันข้ามกับการสืบสาวเรื่องราวถึงต้นตอ ค้นหาความจริงผ่านเบาะแสต่างๆ ในการทำคดี เสวียนจิ้ง หากปรารถนาจะบรรลุเป็นเซียนก็ควรต้องรู้ไว้ว่าถึงตอนนั้นเจ้าคงมิอาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความดีความเลวของผู้คนบนโลกได้อีก ดังนั้นข้าถึงได้บอกว่าน่าเสียดาย”

    หลังจากตั้งอกตั้งใจครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเผยเสวียนจิ้งก็ตอบ “ผู้มีกระดูกเซียนถึงจะเป็นเซียนได้ คนธรรมดาทั่วไปไหนเลยจะเข้าใจเรื่องบรรลุเป็นเซียนนั้นสวรรค์เป็นผู้ลิขิต เสวียนจิ้งมีหรือจะกล้าใฝ่สูง แต่เสวียนจิ้งอยู่ในอารามขัดเกลาจิตใจอยู่สามปี พอได้ข้อคิดอะไรกลับมาอยู่บ้าง และน่าจะมีประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีด้วยเช่นกัน”

    “เจ้ามีข้อคิดอันใด” อู่หยวนเหิงเริ่มนึกสนใจในตัวของเผยเสวียนจิ้งมากขึ้นทุกที

    “ก็เหมือนอย่างที่ใต้เท้าอู่กล่าว เหล่านักพรตเชื่อว่าโลกนี้ฮุ่นตุ้นคือรูปแบบสูงสุด สรรพสิ่งล้วนมีวิถีแห่งตน เกิดขึ้นด้วยการสรรค์สร้างของธรรมชาติ เป็นสภาวะที่สมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นเมื่อทวารทั้งเจ็ดถูกเปิด ฮุ่นตุ้นจึงสิ้นใจ พูดอีกอย่างก็คือแม้นมีมนุษย์เข้าไปข้องเกี่ยว ต่อให้เพียงแค่สังเกตการณ์หรือเพียงความรู้สึก ก็ทำลายสภาวะสมดุลที่มีอยู่แต่เดิมของสรรพสิ่งทั้งหลายได้ดีชั่วต่างอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ดังกล่าว มนุษย์ไม่มีดีสุดไร้ที่ติ ไม่มีชั่วช้าสมบูรณ์ ขอเพียงเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้าง ทุกสิ่งอย่างล้วนย่อมมีข้อบกพร่อง มีมลทิน ส่งผลกระทบถึงกันไม่สิ้น กลายเป็นเหตุและผลของกันและกัน เมื่อเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้ว ยามพินิจพิจารณาคดีก็ย่อมหาจุดคลี่คลายปมปริศนาได้ไม่ยาก ความคิดอ่านล้วนปลอดโปร่ง”

    *ฮุ่นตุ้น หรือตี้หง เป็นสัตว์เทพในเทพนิยายปรัมปราของจีน มีบันทึกว่าเป็นเทพของแดนกลาง รูปร่างเหมือนถุงหนัง ผิวแดงเหมือนไฟ มีหกเท้าสี่ปีก แต่ไร้ซึ่งทวารทั้งเจ็ด ชื่นชอบการรำร้อง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook