• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ บทที่ 1

    เฉินดาบปีศาจเห็นกระบี่สองเล่มนี้ก็ตาเบิกโพลง หนังศีรษะชาไปชั่วขณะ รอยแผลเป็นจากดาบบนศีรษะนั่นเกิดความรู้สึกเสียวซ่านเล็กน้อย

    ชุดคลุมครามสะอาดสะอ้านสองตัวนั้นแม้ว่าจะเป็นสีเรียบง่าย แต่ในสายตากลุ่มคนกลับเสมือนเปล่งแสงสว่างอันลึกลับออกมา

    บุรุษชุดคลุมครามด้านซ้ายค่อนข้างอาวุโสกว่า อายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี หนวดเหนือริมฝีปากขึ้นอย่างเป็นระเบียบยิ่ง ดวงตาเฉียบคมคู่นั้นของมันกวาดมองโดยรอบหนึ่งรอบ ท่วงท่าชนิดหนึ่งที่ชวนให้มิกล้าสบตาปล่อยออกมาเองโดยธรรมชาติ

    “สำนักชิงเฉิง จางเผิง” ขณะกล่าวบุรุษผู้นี้มิได้ประสานหมัดแสดงมารยาท น้ำเสียงก็ไม่เหมือนกำลังแนะนำตัวเองสักนิด แต่กลับเหมือนกำลังสั่งให้กลุ่มคนจดจำชื่อนี้ไว้ให้แม่น “ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ให้ลงเขามาเป็นเพื่อนศิษย์น้องเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องนี้”

    ผู้เฒ่าจวงมองดูหมาปาอย่างเป็นต่อ จากนั้นเดินเข้าไปประสานมือแสดงมารยาท “ข้าน้อยสมควรตาย รู้แต่แรกว่ามือกระบี่ทั้งสองท่านมาไกลก็ควรจะเตรียมรถม้าไว้ที่เชิงเขา…”

    จางเผิงขัดจังหวะมัน “ผิดวินัยสำนักเรา นอกจากผู้สำเร็จวิชาจะลงเขาแล้ว ศิษย์ที่จะเข้าออกล้วนห้ามมิให้โดยสารรถม้า กล้ามเนื้อจะเกียจคร้าน”

    ผู้เฒ่าจวงยิ้มประจบ “นับถือ! นับถือ! เอ่อ เรื่องราวในคราวนี้เดิมเป็นเพียงความขัดแย้งเล็กๆ ในเมือง ต้องลำบากถึงมือกระบี่ทั้งสองท่าน ช่าง…”

    จางเผิงขัดจังหวะอีกครั้ง “ข้าบอกแล้วไง ข้าแค่มาเป็นเพื่อน” จางเผิงชี้ไปที่ศิษย์น้องข้างกาย “ปฏิบัติตามคำสั่งอาจารย์ เรื่องนี้ให้ศิษย์น้องเยียนของข้าผู้นี้สะสาง” กล่าวจบมันก็ถอยหลังหนึ่งก้าว

    กลุ่มคนรู้สึกผิดความคาดหมาย มองดูศิษย์สำนักชิงเฉิงวัยอ่อนเยาว์ข้างกายจางเผิงผู้นั้นโดยละเอียด

    คนแซ่เยียนผู้นี้ดูเหมือนอายุเพียงสิบหกสิบเจ็ดปี แม้แต่หนวดเคราก็ยังไม่ขึ้น รูปร่างเพรียวสูงปานกลาง เครื่องหน้าทั้งห้าเล็กประณีตฝากแฝงกลิ่นอายไม่ประสา คิ้วดกหนาเฉียงขึ้นพาให้ดูกล้าหาญเด็ดเดี่ยว แต่สีหน้าท่าทางเคอะเขิน กอปรกับสีผิวตากแดดจนคล้ำเข้ม หากข้างเอวมิได้พกกระบี่อยู่จริงๆ มองอย่างไรก็เป็นเพียงหนุ่มน้อยบ้านนาคนหนึ่ง

    เด็กหนุ่มเกือบจะประสานมือแสดงมารยาทต่อกลุ่มคน แต่นึกถึงคำสั่งของศิษย์พี่จางระหว่างทางขึ้นได้ จึงลดมือลงมา

    ‘สามัญชนเหล่านี้หาใช่คนระดับเดียวกันกับพวกเรา’

    ศิษย์พี่จางกล่าวไว้เช่นนี้

    เด็กหนุ่มกำหมัด สายตาลดต่ำมิได้มองคนผู้ใด ริมฝีปากแดงเรื่อราวกับเด็กๆ สั่นไหวเล็กน้อย

    “…สำนักชิงเฉิง เยียนเสี่ยวลิ่ว” สุ้มเสียงแผ่วเบาจนมีเพียงคนในศาลาเท่านั้นที่ได้ยิน

    ผู้เฒ่าจวงขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มสีหน้าท่าทางเก้อเขินเช่นนี้ ยังมีชื่อเรียกต่ำต้อยเช่นนี้อีก ช่างมิได้เหมาะสมกับตำแหน่งมือกระบี่เลยแม้แต่น้อย โดยรวมมิได้ต่างกันกับลูกหลานชาวนาทั่วไปคนหนึ่งนัก

    แต่ว่าดูจากท่าทางของจางเผิงยังมีชุดคลุมครามและกระบี่ คนทั้งสองนี้ไม่ว่าอย่างไรก็เลียนแบบมิได้

    “จอมยุทธ์น้อยเยียนท่านนี้…” ผู้เฒ่าจวงยังต้องประสานมือให้เด็กหนุ่มที่อ่อนกว่าตนมากถึงสี่สิบปีคนนี้ด้วยความเคารพ “ที่มาที่ไปของเรื่องนี้เป็นเช่นนี้…”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook