• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 6 บทที่ 2

    หอเถี่ยเฟิงเดิมมีนักสู้เอ๋อเหมยสองร้อยกว่าคนและสายพลอีกาอู่ตังไม่เกินสามสิบกว่าคน อาศัยอยู่ที่เดียวกันกับผู้สวามิภักดิ์ ความจริงหาได้ปลอดภัยไม่ แต่เยี่ยเฉินยวนเข้าออกนอกในหอเถี่ยเฟิง มิเพียงไม่นำศิษย์ติดตาม แม้กระทั่งกระบี่เพลิงวารีอัคคีชลก็มิได้พกติดตัว

    แรกเริ่มศิษย์สายพลอีกาแนะนำรองเจ้าสำนักให้ระวัง แต่เยี่ยเฉินยวนเพียงแค่ตอบเสียงเย็นชา ‘ถ้าหากพวกมันคิดว่าใช้อุบายลอบทำร้ายแล้วจะฟื้นฟูสำนักเอ๋อเหมยขึ้นมาได้ใหม่ก็ให้พวกมันทำเถอะ’

    บุคลิกนี้ของเยี่ยเฉินยวนกลับทำให้ศิษย์เยาว์วัยจำนวนมากของเอ๋อเหมยนับถือ เมื่อเทียบกับอวี๋ชิงหลินผู้ไร้ความสามารถ พวกมันรู้สึกด้วยใจจริงว่ามิสู้ติดตามผู้พิชิตผู้นี้ยังจะดีกว่า หยางเจินหรูคือคนหนึ่งในนั้นที่เชื่อเช่นนี้ หลายเดือนที่ผ่านมามันกลายเป็นคนสนิทของเยี่ยเฉินยวนช่วยจัดการชีวิตประจำวันต่างๆ

    หยางเจินหรูเดินตามอยู่ด้านหลังเยี่ยเฉินยวนเงียบๆ ไม่เอ่ยคำ แม้ตัดสินใจติดตามรองเจ้าสำนักไปเขาอู่ตังด้วยกันแล้ว แต่มองเห็นอาการประจบประแจงต่อเยี่ยเฉินยวนและศิษย์อู่ตังของอดีตสหายร่วมสำนักเอ๋อเหมยแต่ละคน ในใจมันยังคงมีความแจ็บแปลบอยู่บ้าง

    …ที่แท้ พวกเราคือสำนักเอ๋อเหมยที่มองถิ่นซื่อชวนด้วยความโอหัง

    หยางเจินหรูเองก็รู้ว่าสหายร่วมสำนักบางคนกำลังด่ามันอยู่ลับหลังว่าเป็นศิษย์ทรยศหักหลังบรรพชนอย่างไร จุดนี้มันกลับมิได้ละอายใจเลยสักนิด สวามิภักดิ์ต่อสำนักอู่ตังก็มิใช่การตัดสินใจของมัน หากว่าในวันนั้นอาจารย์เจ้าสำนักตัดสินใจหยิบพลองทวนขึ้นมาทำศึก มันก็ยินยอมตายเพื่อสำนัก หรือหากอาจารย์ของมันหาใช่อวี๋ชิงหลิน แต่เป็นซุนอู๋เยวี่ยอาจารย์อา มันเองก็จะสมัครใจออกจากเขาเอ๋อเหมยติดตามไป…

    หยางเจินหรูส่ายหน้าเบาๆ คิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาอีกจะยังมีประโยชน์อะไร ล้วนเป็นอดีตไปแล้ว ตนเองยังมีอนาคต วันนี้เพิ่งอายุยี่สิบเจ็ดปี อีกทั้งสำนักเอ๋อเหมยก็กลายเป็นสำนักอู่ตังอาศรมเอ๋อเหมยอย่างเป็นทางการไปแล้ว ตนไปเขาอู่ตังก็เพียงแค่ย้ายแหล่งฐานสำนักเพื่อศึกษาวิชาเท่านั้น แล้วจะกล่าวว่าทรยศได้เช่นไร…ในใจหยางเจินหรูไม่คิดจะอยู่ที่หอเถี่ยเฟิงอันเต็มไปด้วยบรรยากาศปราชัยนี้อีกสักขณะเดียว แทบอยากจะออกเดินทางจากไปทันทีในวันนี้

    เยี่ยเฉินยวนแม้มิได้หันหน้ามา กลับคล้ายรับรู้ถึงความคิดในใจหยางเจินหรู

    “พวกเราใกล้จะไปแล้ว…เจ้าเตรียมพร้อมหรือยัง”

    “ศิษย์ไม่มีอะไรต้องเตรียม” หยางเจินหรูตอบอย่างเคารพ “นำเพียงตัวและทวนไปก็พอแล้ว”

    เยี่ยเฉินยวนเพียงพยักหน้าเล็กน้อยมิได้ตอบกลับ หยางเจินหรูรู้ว่านี่คือการชมเชยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรองเจ้าสำนักแล้ว

    คนทั้งสองลงบันได ผ่านโถงที่ยังคงประดิษฐานไว้ด้วยทวนสีทองขนาดใหญ่นั้นของหอเถี่ยเฟิง ในโถงเดิมมีป้ายคำขวัญเก่าแก่เกินกว่าแปดรุ่นเขียนว่า ‘ยอดวิชาเสวียนคง*’ แขวนอยู่ป้ายหนึ่ง ครึ่งปีก่อนถูกเปลี่ยนเป็นอักษรคำว่าสำนักอู่ตัง มุมซ้ายล่างเขียนไว้ว่าอาศรมเอ๋อเหมยตัวเล็กๆ

    พวกมันเดินเข้าไปในห้องโถง สถานที่แห่งนี้เดิมทีคือสถานที่สำคัญที่เจ้าสำนักเอ๋อเหมยและอาจารย์ผู้อาวุโสในสำนักปรึกษาเรื่องราวและรับรองอาคันตุกะที่มาจากภายนอก บัดนี้ถูกศิษย์สายพลอีกายึดครองแล้ว

    * เสวียนคง มาจากชื่อของบุรพาจารย์แห่งวิชายุทธ์เอ๋อเหมย ‘ซือถูหยวนคง’ ผู้ได้รับการเล่าขานเป็นตำนาน

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook