• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 3 บทที่ 2

    หน้าที่แล้ว1 of 14

    บทที่สอง ช่องเขาอูสยาออกพ้นซื่อชวน

     

    ขว้าง!”

    สิ้นเสียงตะโกนสั่ง กะลาสีเรือผู้นั้นก็พยักหน้าแล้วขว้างก้อนดินแห้งขนาดเท่าชามข้าวในมือจากดาดฟ้าเรือลอยสูงไปยังกลางแม่น้ำ

    จิงเลี่ยก้าวเท้าเสริมแรงตามในทันที มันแกว่งแขนซ้ายอย่างแรง สิ่งหนึ่งในมือซึ่งโยงด้วยโซ่เหล็กยาวหนึ่งช่วงพุ่งดุจหัวลูกศรไปยังก้อนดินนั้น

    สิ่งนั้นโจมตีถูกก้อนดินที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างแม่นยำ เศษดินแตกกระจายตกลงสู่แม่น้ำ

    จิงเลี่ยไม่รอให้สิ่งนั้นตกน้ำไปด้วย มันกระตุกข้อมือซ้ายที่พันไว้ด้วยโซ่เหล็ก สิ่งนั้นลอยกลับมาอย่างรวดเร็ว จิงเลี่ยยื่นมือซ้ายออกไปรับไว้

    “มาอีก!” จิงเลี่ยตะโกนเสียงดัง

    ข้างเท้ากะลาสีผู้นั้นยังสุมก้อนดินขนาดพอๆ กันเอาไว้สิบกว่ากอง ล้วนเป็นดินที่เมื่อวานขุดจากบนฝั่งมาตากจนแห้งเพื่อเตรียมใช้เป็นเป้าบินฝึกซ้อม มันรีบหยิบขึ้นมาอีกก้อน ครั้งนี้ใช้ความแรงและมุมที่ต่างกันขว้างไปยังแม่น้ำข้างเรือ

    จิงเลี่ยซัดสิ่งนั้นออกไปอีกครั้ง และกระแทกก้อนดินแตกละเอียดอีกเช่นเคย

    ถงจิ้งที่พิงกราบเรือชมดูอยู่ด้านข้างดีใจจนต้องปรบมือ กะลาสีเรือของพรรคหมินเจียงเองก็ต่างโห่ร้องยินดีขึ้นมา

    “พี่จิง ร้ายกาจนัก!” เยียนเหิงเดินเข้าไปใกล้ขณะจิงเลี่ยเก็บอาวุธนั้นกลับมาพอดี เยียนเหิงหยิบมาดูอย่างละเอียด

    ปลายทวนดำปลาบสะท้อนแสงวูบวับเย็นสยอง ด้านบนสลักอักษรโบราณคำว่า ‘เอ๋อเหมย’ สองตัว มิใช่สิ่งอื่นใด มันคือ ‘ธงหนึ่งจั้ง’ สิ่งต่างหน้าของซุนอู๋เยวี่ยผู้อาวุโสแห่งสำนักเอ๋อเหมย…ปลายคมของทวนเหล็กด้ามใหญ่นั้นเอง

    “ท่านเป็นท่านี้ได้อย่างไร” เยียนเหิงนำหัวทวนเหล็กส่งคืนให้จิงเลี่ย

    “เมื่อก่อนตอนอยู่สำนักหู่จุนแห่งหนานไห่ ข้าเคยเรียนพื้นฐานวิชาเชือกโผมาบ้าง” จิงเลี่ยม้วนโซ่เหล็กไว้บนแขนซ้าย ถือหัวทวนต่างกระบี่สั้น “ต่อมาไปเกาะเหมียนหลันเต่า* ก็เรียนวิชามีดบินกับชาวหุยหุยที่นั่นอีก นำสองวิชามาผสานกันใช้ คิดไม่ถึงว่าจะถนัดมือยิ่งกว่า”

    มันลูบไล้อักษรสลักบนหัวทวนนั้น “ของสิ่งนี้ยังเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของผู้อาวุโสซุน ต่อไปทุกครั้งที่ข้าใช้มันสังหารคนของอู่ตัง ล้วนสังหารแทนผู้อาวุโสซุน”

    หลังศึกเลือดเฉิงตูในวันนั้น คนของพรรคหมินเจียงมิเพียงหาอาวุธที่หายไปของจิงเลี่ยกลับมา พวกมันยังนำอาวุธที่ตกอยู่ของคนสำนักอู่ตังและสำนักเอ๋อเหมยมาด้วย ตอนแรกจิงเลี่ยคิดเพียงจะนำอาวุธเป็นสิ่งรำลึก แต่ต่อมาคิดได้ฉับพลัน จึงอาศัยเวลาขณะเรือสินค้าเทียบฝั่งเมืองเพื่อซ่อมบำรุง หาช่างเหล็กตีโซ่ยาวหนึ่งเส้นแล้วเสียบหัวทวนนี้ไว้ตรงปลาย เปลี่ยนมันเป็นอาวุธอ่อนโจมตีระยะไกลชิ้นหนึ่ง วันนี้ทดลองใช้เป็นครั้งแรก กลับถนัดมือดั่งใจเช่นนี้ ลองซัดเจ็ดครั้ง ห้าครั้งล้วนเข้าเป้า

    จิงเลี่ยคลายโซ่เหล็กนั้นออก วางหัวทวนไว้บนดาดฟ้าเรือด้านหนึ่ง มือซ้ายชักอาวุธออกมาจากบั้นเอว ที่แท้เป็นมีดเสี้ยวจันทร์ยวนยางที่สือหงยอดฝีมือสายพลอีกาอู่ตังทิ้งไว้ จิงเลี่ยฉีกผ้าพันตรงด้ามจับมีดเสี้ยวจันทร์ยวนยางทิ้ง ให้ช่างเหล็กลับอาวุธทั้งเล่มให้บางและเหลาให้เบา ซ้ำยังตะไบคมหางปลาปลายหนึ่งให้ทื่อทำเป็นด้ามจับ มีดเสี้ยวจันทร์ยวนยางได้ถูกดัดแปลงเป็นใบมีดบินที่ใหญ่เป็นพิเศษเล่มหนึ่ง ในคืนนั้นจิงเลี่ยเห็นสือหงซัดมีดเสี้ยวจันทร์ยวนยางสังหารซุนเชียนจิน แม้จะเจ็บปวดเสียใจ แต่ก็รู้สึกนับถืออย่างแท้จริง ภาพทรงจำนั้นติดตรึงอย่างยิ่ง จึงคิดเพียงว่าอย่างไรก็ต้องเรียนวิชานี้มาให้ได้

    จิงเลี่ยนำมีดเสี้ยวจันทร์ยวนยางในมือมาโยนเล่น “ประเดี๋ยวพวกเราขึ้นฝั่งฝึกทักษะ ค่อยลองเจ้านี่”

    หน้าที่แล้ว1 of 14

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook