• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ บทที่ 3 และบทที่ 4

    หน้าที่แล้ว1 of 23

    สามารถอ่านตอนก่อนหน้าได้ที่ >> บทที่ 2

    บทที่สาม ศิษย์สาวกสืบมรรคา

     

    รุ่งเช้าวันถัดมา ขณะที่เยียนเสี่ยวลิ่วกำลังเตรียมตัวเข้าเรียนคาบเช้าหลังตื่นนอน ศิษย์พี่จางเผิงก็มาร้องเรียกมัน

    เห็นจางเผิงสวมชุดมือกระบี่ชิงเฉิงแบบเดียวกับเมื่อวาน อีกทั้งยังสะพายกระบี่ เยียนเสี่ยวลิ่วย่อมรู้ดีว่าทำเพื่ออะไร

    จางเผิงนำพามันไปอาบน้ำที่บ่อน้ำแร่กลางเขาด้านหลัง ให้น้ำแร่เย็นฉ่ำชำระร่างกายและปลุกกระตุ้นจิตใจ เยียนเสี่ยวลิ่วผลัดเปลี่ยนชุดมือกระบี่ที่ศิษย์พี่จัดเตรียมไว้ให้ กลับไปยังเรือนเสวียนเหมิน ไปที่ศาลบรรพชนเพื่อจุดธูปสักการะบูรพาจารย์สำนักชิงเฉิงในอดีตก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเริ่มเข้าสู่โถงกุยหยวน

    ใต้อักษร ‘ปาสู่ไร้สอง’ ขนาดใหญ่และหนาสี่ตัวนั้น บัดนี้เหอจื้อเซิ่งเจ้าสำนัก ซ่งเจิน เฉินหงลี่ หลี่ว์อีเว่ย สามอาจารย์อาผู้อาวุโส จางเผิง ศิษย์สาวกสืบมรรคา และศิษย์พี่รวมแล้วสี่สิบคน ได้นั่งกันตามลำดับและรอคอยอย่างเงียบๆ อยู่ในโถง แต่ละคนต่างสวมชุดคลุมมือกระบี่อย่างเป็นทางการเหมือนกันหมด และห้อยกระบี่ล้ำค่าสำนักชิงเฉิงไว้ที่ข้างเอว ในโถงกุยหยวนมีบรรยากาศเคร่งขรึมชนิดหนึ่งที่บีบให้ผู้คนต้องหายใจอย่างหนักหน่วง

    เหอจื้อเซิ่งแต่งกายตามธรรมเนียมนักพรตของสำนัก บนร่างสวมชุดคลุมเต๋าเจ้าสำนักที่ทำมาจากฝ้ายขาวบริสุทธิ์ปักดิ้นทอง บนศีรษะมีปิ่นรูปนกกระเรียนปักอยู่ แผ่นหลังมีกระบี่ห้อยเฉียง มือถือแส้ปัด กอปรกับนัยน์ตาสีเทาคู่หนึ่ง ทั้งกายจึงแผ่กลิ่นอายที่ราวกับไม่ยุ่งเกี่ยวทางโลก

    แต่เพราะว่าเซียนผู้นี้ในวัยยี่สิบสามปีกำจัดหมู่ผีชวนซีทั้งสามสิบเอ็ดอมนุษย์ด้วยกระบี่เล่มเดียว สังหารจนกระบี่และกระดูกหัก แม้แต่นิ้วกลางมือขวาสูญหายไปก็เพราะการต่อสู้ในครั้งนั้น โลหิตที่ไหลและซากศพกองรวมกันได้ไกลเกินสิบจั้ง*

    พรสวรรค์วิชากระบี่อันดับหนึ่งซึ่งดำรงอยู่เกือบร้อยปีของสำนักชิงเฉิงเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันในบริเวณโดยรอบเขาชิงเฉิงร้อยหลี่ ไม่ว่าจะเป็นในสายตาของขุนนางและปุถุชน คนเลวและคนดี ไปจนผู้ซึ่งยากแยกแยะเหมือนเช่นมีมารร้ายและเทพเจ้ารวมกันอยู่ในร่างเดียว ศิษย์ในสำนักสองร้อยกว่าคนให้สัตยาบันยึดปรมาจารย์ที่อยู่ไกลจนมิอาจเอื้อมผู้นี้เป็นต้นแบบ

    เยียนเสี่ยวลิ่วดึงชายชุดคลุมออกมา คุกเข่าลงกึ่งกลางโถงกุยหยวน

    ศิษย์พี่สี่สิบคนที่แบ่งกันนั่งเป็นสองฝั่งลุกขึ้นยืนพร้อมกัน จางเผิงเองก็รวมอยู่ในนั้น

    ซ่งเจินอาจารย์ฝึกสอนและผู้ดูแลหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งมา ยื่นไปยังเบื้องหน้าเหอจื้อเซิ่ง

    เหอจื้อเซิ่งนำแส้ปัดมอบให้ศิษย์น้องหลี่ว์อีเว่ยที่นั่งอยู่ด้านข้าง จากนั้นหยิบป้ายไม้เล็กๆ และพู่กันด้ามหนึ่งมาจากในกล่องไม้ ยกพู่กันจุ่มลงกับจานฝนหมึกในกล่องไม้ ลุกขึ้นเดินไปยังเบื้องหน้าเยียนเสี่ยวลิ่ว

    เยียนเสี่ยวลิ่วเห็นป้ายไม้ว่างเปล่าแผ่นนั้น หัวใจว้าวุ่นผิดปกติ

    “เจ้าเข้าสำนักชิงเฉิงมานานเท่าไหร่แล้ว” เหอจื้อเซิ่งถาม

    “พ้นวันตรุษก็ครบเจ็ดปีเต็มแล้วขอรับ” เยียนเสี่ยวลิ่วตอบอย่างตื่นเต้น

    “อืม…ดีมาก ข้ายังจำได้ สามปีก่อนเจ้าเข้าร่วมงานประลองฤดูหนาว* ครั้งแรก ชนะสองแพ้หนึ่ง ส่วนงานประลองฤดูร้อนปีนี้ชนะสามรอบรวดเลยใช่ไหม”

    * จั้ง เป็นหน่วยมาตราวัดของจีน เทียบได้ระยะประมาณ 3.33 เมตร

    * ทุกปีสำนักชิงเฉิงจะจัดงานประลองขึ้นสองครั้ง โดยคัดเลือกศิษย์มาประลองกระบี่เพื่อทดสอบฝีมือกัน เป็นการสังเกตความก้าวหน้าของทักษะในแต่ละคน แบ่งเป็นงานประลองฤดูร้อนและฤดูหนาว

    หน้าที่แล้ว1 of 23

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook