• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้าพิชิตปฐพี 23_2

    ซังซังกล่าวว่า

    “ท่านจะบอกว่าอนาคตไม่ได้ถูกกำหนดไว้แน่นอน ดังนั้นพวกเราจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอย่างนั้นหรือ”

    “อนาคตกับความตายที่จริงแล้วคล้ายกันมาก หากถูกกำหนดไว้แล้ว กังวลไปก็ไร้ความหมาย แต่ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ พวกเราก็ยิ่งไม่ต้องกังวล แค่พยายามเปลี่ยนมันก็พอ”

    “ข้าเข้าใจแล้ว คำพูดนี้สมเหตุสมผลยิ่ง”

    “แม้ข้าจะพูดคำพูดที่สมเหตุสมผลออกมาได้บ้าง แต่ที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่คำพูดของข้า เป็นคำพูดของอาจารย์ ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นอย่างไม่สงสัย”

    จากนั้นมันสบตาซังซังแล้วพูดว่า

    “โลกทั้งใบอาจไม่ยินยอมให้พวกเรามีชีวิตรอดต่อไป แต่พวกเราก็ต้องกลับสถานศึกษา เพราะถ้านี่เป็นความเชื่อมั่นครั้งสุดท้าย ข้าก็จะฝากไว้กับอาจารย์”

    ใบหน้าขาวซีดของซังซังปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ นางพยักหน้า

    หนิงเชวียยิ้มแล้วกล่าวว่า

    “พวกเราอาจตายได้ทุกเมื่อ พรุ่งนี้อาจเป็นวันสุดท้ายแล้วก็ได้ อันที่จริงก็ไม่เห็นว่าจะเลวร้ายอะไร อย่างน้อยก็กระตุ้นให้พวกเราทำเรื่องมากมายที่ก่อนหน้านี้อยากทำแต่ไม่กล้าทำ”

    ซังซังนิ่งเงียบมองมัน รวบรวมความกล้าแล้วบอกว่า

    “ข้าอยากมีลูกกับท่าน”

    หนิงเชวียตะลึงงัน จากนั้นก็ยิ้มเจื่อน เอ่ยตอบว่า

    “กว่าจะมีลูกต้องใช้เวลานานมาก มีเรื่องที่อยากทำตอนนี้ไหม”

    ซังซังถามกลับ

    “ตอนนี้ท่านอยากทำอะไร”

    หนิงเชวียจูงนางไปที่หน้าต้นโพธิ์ หยิบหัวธนูที่แหลมคมออกมา บนต้นไม้ที่สานุศิษย์นิกายพุทธทั้งโลกมองว่าเป็นสัญลักษณ์สูงสุดและศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่อาจล่วงเกิน มันสลักตัวอักษรเล็กๆ ขึ้นมาแถวหนึ่ง

    ‘ฤดูสารท รัชสมัยเทียนฉี่ปีที่สิบหก หนิงเชวียแห่งสถานศึกษาพาซังซังบุตรีของหมิงหวังผู้เป็นภรรยามาที่นี่’

     

    รถม้าสีดำแล่นอย่างโดดเดี่ยวบนทุ่งร้างอันหนาวเหน็บ เพราะรอบด้านนั้นเปลี่ยวร้างอย่างไร้ขอบเขต รถม้าที่แล่นเร็วจึงดูเหมือนเคลื่อนที่อย่างช้าๆ อยู่บนกระดาษสีเทาดำแผ่นหนึ่ง

    หนิงเชวียกับซังซังเคยใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งร้างมาก่อน จึงไม่รู้สึกแปลกหน้ากับความโดดเดี่ยวและเปลี่ยวร้างแบบนี้ ทั้งคุ้นเคยต่อการปรับตัวเป็นอย่างดี พวกมันรู้ว่าต่อให้เป็นทุ่งร้างทางเหนือของจงหยวน ถ้าโชคไม่ดี สิบวันครึ่งเดือนก็อาจไม่เจอใครสักคนเลยก็ได้ นับประสาอะไรกับทุ่งร้างตะวันตกแห่งนี้ที่เปลี่ยวร้างยิ่งกว่า

    มันจึงคิดไม่ถึงว่าหลังจากรถม้าออกห่างจากต้นโพธิ์มาได้สิบกว่าลี้ ทุ่งร้างที่ด้านหน้าก็มีคนคนหนึ่งปรากฏตัว และเป็นบุคคลประเภทที่มันไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้

    ตรงหน้ามันคือหลวงจีนชราที่ใบหน้าเหี่ยวย่นและดำคล้ำรูปหนึ่ง จีวรเก่าขาด ทั้งตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น

    สัญจรไปทั่วหล้า บุคคลสามประเภทที่ต้องระวังที่สุดก็คือหลวงจีน นักพรต และสตรี ทุ่งร้างบริเวณนี้ห่างจากวัดเสวียนคงไม่ไกล หลวงจีนชรารูปนี้ไม่ว่ามองอย่างไรก็ต้องเกี่ยวข้องกับวัดเสวียนคงแน่นอน สีหน้าหนิงเชวียจึงเคร่งขรึมลง

    มองเห็นรถม้าที่ค่อยๆ หยุดอยู่ด้านหน้าห่างออกไปหลายสิบจั้ง รอยย่นบนใบหน้าของหลวงจีนชราก็ค่อยๆ คลายลง กรวดทรายที่เกาะอยู่ตามผิวหนังค่อยๆ ร่วงหล่น ดวงตาที่สงบฉายแววเวทนา

    หลวงจีนชรากล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณคำหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า

    “ใครจะคิดว่าบุตรีของหมิงหวังและเซียนเซิงสิบสามของสถานศึกษาจะมาที่วัดเสวียนคง มิน่าเล่าทั่วทั้งแดนโลกิยะค้นหากันอย่างยากลำบาก ก็ยังหาร่องรอยของพวกเจ้าไม่พบ”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook