• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 12 ตอนที่ 3

    ทันทีที่นิ้วผอมแห้งขยับไหว ยันต์รูปซันก็เริ่มทำงาน

    บรรดาก้อนหินที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศพลันทิ้งตัวดิ่งลงมาราวกับห่าพิรุณโหมกระหน่ำ เสียงตูมตามดังกระชั้นกึกก้อง ผืนดินสั่นสะเทือนเลือนลั่น ผนังผาสะท้านสะเทือนไหว ไม่นานบริเวณนั้นก็ปรากฏหลุมบ่อจำนวนมากมาย ดินทรายกระเด็นฟุ้งบดบังทั้งท้องนภาและดวงตะวัน

    ทว่าเว่ยกวงหมิงยังยืนอย่างสงบอยู่ท่ามกลางห่าก้อนหินน้อยใหญ่ ก่อนยกมือขวาขึ้นเหนือศีรษะ และแล้ว แค่ชั่วประกายไฟแลบ พลังเทพก็สำแดงความมหัศจรรย์ออกมา

    แสงเจิดจรัสแผ่พุ่งออกจากปลายนิ้วชี้ของมันในทันที แม้มิได้เปล่งพลังคุกคามใดๆ อีกทั้งยังส่ายไหวคล้ายจะดับลงได้ทุกเมื่อจากแรงกดดันของห่าก้อนหินเต็มท้องฟ้า แต่ถึงกระนั้นก็ยังดึงดันแข็งขืนไม่ดับลง

    ตราบใดที่แสงเจิดจรัสตรงปลายนิ้วไม่ดับ ห่าก้อนหินที่ตกลงมาก็ไม่อาจสัมผัสถูกตัวมันได้แม้สักกระผีกริ้น

    ห่าก้อนหินเต็มท้องฟ้ายังคงพากันกระหน่ำลงมาไม่จบไม่สิ้น เพราะเมื่อตกลงถึงพื้นก็จะถูกเจตนารมณ์แห่งยันต์ชักนำให้กลับขึ้นไปใหม่ จนหิมะที่โปรยปรายอยู่เมื่อครู่มิทราบว่าพากันหลบหนีไปยังที่ใดแล้วด้วยความหวาดกลัว

    เสี้ยววินาทีนั้น แสงเจิดจรัสของเฮ่าเทียนตรงปลายนิ้วเว่ยกวงหมิงพลันระเบิดแสงเจิดจ้าขึ้น บริเวณหน้าผาซึ่งถูกห่าก้อนหินตกใส่จนมืดฟ้ามัวดินถูกส่องจนสว่างไสวเห็นกิ่งก้านของต้นไม้ใบหญ้าได้อย่างแจ่มชัด

    ดวงตะวันยามเช้านั้นได้หลบเร้นเข้าหลังก้อนเมฆไปแล้ว

    แต่ตรงปลายนิ้วซึ่งชี้ขึ้นไปยังท้องนภากลับปรากฏดวงตะวันขึ้นดวงหนึ่ง

    สว่างไสวแต่เย็นชาไร้ปราณี นุ่มนวลแต่แข็งแกร่งทรงพลัง

    มันให้ความสว่างไสวแก่ผืนพิภพ ดำรงอยู่ทุกหนแห่ง

    ผู้ที่ติดตามมันจะได้เดินอยู่ในแสงสว่าง ผู้ที่หันหลังให้มันจะต้องเดินอยู่ในความมืด และถูกทำลายล้างให้สิ้นซาก

    ก้อนหินบนหน้าผา ต้นหญ้าในร่องหิน บุปผาที่สั่นระริก ต้นไม้และคนที่อยู่ใต้ร่มเงาของมัน ล้วนถูกความสว่างไสวจับจ้องลงมาจนบังเกิดความหวาดหวั่นพรั่นพรึง

    ห่าก้อนหินเมื่อตกลงมาก็ไม่ลอยขึ้นอีก ดังนั้นเกล็ดหิมะขาวโพลนจึงโปรยปรายลงมาอีกครา พอตกต้องฉากกั้นไร้รูปก็กลายเป็นหิมะเจ็ดสีอันงดงาม

    เหยียนเซ่อลืมตาขึ้นช้าๆ รับรู้ถึงความสว่างไสวที่สะอาดบริสุทธิ์เป็นที่สุด มันมองเกล็ดหิมะหลากสีที่เฉิดฉายอยู่รอบบริเวณด้วยสีหน้าเฉยชา ก่อนวาดมือออกในแนวขวาง

    ชายแขนเสื้อกรีดผ่านอากาศเบื้องหน้ามันเป็นเส้นตรง ราวกับจะขจัดสิ่งกีดขวางทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ให้ราพนาสูรไป

    พริบตาที่ชายแขนเสื้อกรีดวาบ รอยแตกบนผนังผาที่เดิมเห็นได้เพียงรำไร ก็พลันเปลี่ยนเป็นเด่นชัดขึ้นมา ทางเดินขึ้นเขาซึ่งยามมองจากเบื้องสูงจะเห็นเป็นเส้นซ้ายขวาสองเส้นท่ามกลางป่ารกชัฏ ก็เปลี่ยนจากเฉอะแฉะเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่าก้อนหิน

    ชายแขนเสื้อพอสะบัดคราหนึ่งก็นับเป็นขีดแนวนอนหนึ่งขีด รอยแตกบนผนังผานับเป็นขีดแนวนอนขีดที่สอง ส่วนทางขึ้นเขาสองเส้นย่อมต้องเป็นขีดแนวตั้งสองขีด

    ขีดแนวนอนสองขีดกับขีดแนวตั้งสองขีด ประกอบกันเป็นตัวอักษรรูปจิ่ง

    ยันต์ที่กำเนิดจากทางบนเขา หน้าผาและชายแขนเสื้อชุดนี้ทอดตัวอยู่ท่ามกลางดินฟ้า เผชิญหน้าท้าทายแสงสว่างที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างทระนงถือดี ไม่ปิดบังความดูแคลน เพราะมันคือยันต์รูปจิ่งที่ร้ายกาจน่าประหวั่นพรั่นพรึงที่สุดในใต้หล้า

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook