• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย ล่า ตอนถ้ำนาคาลำน้ำโขง บทที่ 1

    หลายวันมานี้ผมให้หม่าซานติดประกาศแจ้งคนหายไปทั่ว ดูซิว่าพอจะมีทางตามหาคนในครอบครัวเธอได้บ้างหรือเปล่า แต่พอนึกถึงเรื่องที่เธอเคยเล่าว่าบ้านเธอในเวลานี้น่าจะเหลือแค่เธอคนเดียวเท่านั้น

    หลังผ่านพ้นเหตุการณ์ยากลำบากในเมืองหมาป่าออกมา สภาพจิตใจของเธอคงพังทลาย แต่นึกไม่ถึงว่าเธอกลับเดินทางมาหาผมถึงที่นี่ หรือว่าบนโลกใบนี้ผมคือเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ

    ตอนอยู่ในเมืองหมาป่า ผมพลั้งปากพูดที่อยู่ร้านให้เธอฟังแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าเธอจะตามหาผมจนมาถึงที่นี่ได้ กว่าจะเดินทางมาถึงไม่รู้ว่าเธอต้องลำบากลำบนขนาดไหน แล้วแบบนี้จะให้ผมใจไม้ไส้ระกำผลักไสไล่ส่งเธอไปได้ยังไงกัน

    เวลาการค้าไม่ยุ่ง ผมมักจะปลีกตัวไปนั่งใต้ต้นไม้เป็นเพื่อนเธอครู่หนึ่ง สูบบุหรี่สักมวน พูดคุยกับเธอ บ้างก็เล่าเรื่องราวภายในร้าน บ้างก็เล่าย้อนกลับไปถึงเรื่องราวน่าสนใจสมัยผมยังเป็นเด็ก

    แต่ส่วนใหญ่ผมมักไม่พูดอะไร เพียงนั่งมองดูเธอท้องฟ้าเป็นเพื่อนเธอ ท้องฟ้าเหนือเมืองเป่ยจิงยังคงเป็นสีเทาที่ดูแห้งผากเหมือนทุกครั้ง ฝูงนกพิราบบินผ่านลาน เสียงนกหวีดดังปรี๊ด กิ่งไม้ไหวสั่นเบาๆ

    ผมพ่นควันออกมาวงหนึ่งและมองมันค่อยๆ จางหายพลางคิดว่าหากชีวิตผ่านผันไปเช่นนี้ทุกวันก็ไม่เลว

    ผ่านไปสองสามวัน นายห้างก็โทรมาเรียกให้ผมเข้าไปหา

    พอไปถึงที่นั่น ผมก็พบว่าไป๋หล่างไม่อยู่ คนที่ออกมาเปิดประตูให้คือนายห้างเอง ทันทีที่ประตูเปิดออก แทนที่จะรีบเรียกผมเข้าไป เขากลับทำเพียงยืนนิ่งอยู่กลางลานสวน ใจลอยพลางเหม่อมองดูแผ่นฟ้าเบื้องบน หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงให้ผมเข้าไปในห้องหนังสือ

    ผมรู้สึกไม่สบายใจ ดูท่าเรื่องที่เกิดขึ้นในต้าซิงอันหลิ่งจะส่งผลกระทบต่อนายห้างไม่ใช่น้อย ท่าทางเขาในเวลานี้อ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด

    พอเข้าไปในห้องหนังสือ ผมก็คิดว่าอีกเดี๋ยวนายห้างคงซักถามอะไรบางอย่าง แต่กลับพบว่าเขาเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร สุดท้ายก็หยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาคีบไว้ในมือแต่ไม่คิดจะจุด

    ผมนั่งบื้ออยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าควรจุดบุหรี่ให้เขาหรือเปล่า ท่ามกลางบรรยากาศเก้ๆ กังๆ สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเปิดบทสนทนา “นายห้าง…ครั้งที่แล้ว ผม…”

    นายห้างแสดงอาการวิตกกังวลเล็กๆ ออกมาให้เห็น ริมฝีปากเขาสั่นระริก ทันในนั้นก็ถอดแว่นออก เผยให้เห็นถึงใบหน้าซีดเซียวเด่นชัด และถามผมด้วยน้ำเสียงร้อนรน “เสี่ยวชี นายดูสิว่าฉันเป็นใคร!”

    “ใคร” ผมงุนงง “ก็นายห้างไงครับ”

    ดวงตาของนายห้างเปียกชื้น เสียงสั่นเครือ “เสี่ยวชี นายดูให้ดี ฉันก็คือน้าเล็กของนาย!”

    ผมตะลึง ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นยืน ละล่ำละลักถามทันควัน “น้าเล็ก? นายห้าง…คุณหมายความว่ายังไง!”

    นายห้างปลดกระดุมเสื้อทันใด เผยให้เห็นรอยแผลเป็นรูปจันทร์เสี้ยวจางๆ บนไหล่ “เสี่ยวชี นายดูนี่!”

    ผมจ้องมองดูแผลเป็นนั่นตาไม่กะพริบ ต่อให้ทุบตีผมให้ตายผมก็ไม่มีทางลืมรอยแผลเป็นบนไหล่ของนายห้างได้ ตอนยังเล็กแม่เคยเล่าให้ผมฟังว่ามีอยู่ปีหนึ่งตอนหน้าหนาวแม่กับน้าเล็กเข้าป่าไปตัดไม้ ต้นไม้ต้นนั้นไม่ต่างอะไรกับภูตผีปีศาจ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าลำต้นถูกตัดขาดแล้ว แต่มันกลับไม่ยอมล้ม

    ต้นไม้ถูกเลื่อยขาดแต่ไม่ล้ม ชาวป่าชาวเขาเชื่อว่านั่นก็ด้วยเพราะต้นไม้เก่าแก่พวกนั้นบรรลุเพียรบำเพ็ญแล้ว สามารถใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายประคองตัวเองไว้หมายจะทับคนที่ตัดมันให้ตาย ถึงตอนนั้นไม่ว่าคนตัดไม้จะหลบหนีไปทางไหน มันก็จะล้มเอนไปทางนั้น ทับใส่คนที่ตัดมันจนเละเป็นโจ๊ก

    คิดจะเอาตัวรอดจากแรงอาฆาตของต้นไม้ คนตัดไม้ต้องถอดเสื้อนอกโยนทิ้งไปอีกด้าน เมื่อต้นไม้เก่าแก่เข้าใจว่านั่นคือคนที่ตัดโค่นมัน มันก็จะล้มทับใส่เสื้อแทน

    น้าเล็กในเวลานั้นนิสัยห้าวหาญ เขาถอดเสื้อนอกออกอย่างรวดเร็วก่อนจะโยนมันไปอีกฟาก ต้นไม้เก่าแก่ต้นนั้นเอนล้มไปตามเสียง แต่แม่ของผมกลับตกใจลนลาน แยกแยะเส้นทางไม่ถูก สุดท้ายก็วิ่งผิดทาง โชคดีที่ได้น้าเล็กลากตัวกลับมาใช้แขนบังเธอไว้

    ไหล่ของเขาถูกกิ่งไม้ทิ่มเข้าไปในเนื้อเป็นแผลลึก ต่อมาภายหลังแม้จะหายดี แต่ก็ทิ้งแผลเป็นรูปจันทร์เสี้ยวไว้

    ดวงตาของผมเปียกชื้น มองดูนายห้างอย่างไม่อยากนึกเชื่อ ปากอ้าค้างไม่รู้ว่าควรเรียกอีกฝ่ายเช่นไร “นาย…น้า…” ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาผมเรียกเขาว่านายห้างมาตลอด การที่จู่ๆ จะให้เปลี่ยนไปเรียกว่าน้าเล็กนั้น ยังไงผมก็อดกระอักกระอ่วนใจไม่ได้

    น้าเล็กยิ้มโอบอ้อมอารีแล้วตบไหล่พลางบอกให้ผมนั่ง เขาเองก็ตื่นเต้นไม่ต่างจากผมและคีบบุหรี่ใส่ปากตัวเอง ก่อนยื่นบุหรี่อีกมวนให้ ผมรีบล้วงเอาไฟแช็กออกมาจุดให้น้าเล็ก ก่อนจะจุดให้ตัวเองแล้วอัดควันเข้าปอดเต็มแรง ปลายนิ้วสั่นสะท้าน ขี้บุหรี่ร่วงกราวลงพื้น

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook