• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน สุขสมปมอำมหิต 2

    “เลดี้เฟลตเชอร์ใช่ไหมครับ ผมต้องขอโทษด้วย ทางเราคลาดกันกับคุณ แต่อย่างน้อยเจ้าหน้าที่อาวุโสกำลังเร่งรุดมาที่นี่ ส่วนผมแค่มารอเผื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น คนอื่นไปดักคุณที่สแตนสเตดกัน แต่…”

    ลอร่าสูดหายใจ ก่อนพูดแทรกเสียงสั่นเครือเล็กน้อยจากความตึงเครียด “ไม่เป็นไรค่ะ คุณตำรวจ แค่บอกมาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

    “เราพยายามกันพวกสัตว์ร้ายเอาไว้ข้างนอกครับเลดี้ พวกนักข่าวห้ามแทรกแซงจนกว่าคุณจะได้รับแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งพวกเขาก็รู้ว่าห้ามพูดอะไรทั้งนั้น พวกเขาคงไม่ได้พูดอะไรออกไปใช่ไหมครับ”

    “ก็พูดมากพอค่ะ มากพอให้ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ บอกฉันมาเถอะค่ะ”

    “ผมว่าพวกเราเข้าไปข้างในกันก่อนดีไหมครับ บางทีเราน่าจะรอเจ้าหน้าที่อาวุโสมาก่อน”

    ลอร่าอยากให้มันจบๆ ไป จากนั้นก็จะได้อยู่คนเดียวเสียที เธอพยายามควบคุมความตื่นตระหนกที่เพิ่มพูนขึ้น “เกี่ยวกับสามีฉันใช่ไหมคะ เพราะถ้าเป็นเรื่องอื่น เขาคงโทรมาบอกฉันเองแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้โทรมา ความเป็นจริงคงไม่เลวร้ายไปกว่าสิ่งที่อยู่ในหัวฉันแล้วล่ะค่ะ เห็นแก่พระเจ้าเถอะ ช่วยบอกมาเสียที”

    นายตำรวจอายุน้อยสูดหายใจลึก “ผมเสียใจด้วยนะครับ เท่าที่ผมรู้ มีคนพบว่าสามีคุณเสียชีวิตอยู่ในบ้านที่ลอนดอนช่วงเช้าวันนี้ ผมรู้ว่ามันต้องกระทบกระเทือนใจคุณเป็นอย่างมาก คุณอยากเข้าไปข้างในไหม น่าจะดีกว่านะครับ”

    ลอร่าไม่กล้าพูดอะไรออกมา เธอยืนมองตำรวจนายนั้นอย่างเงียบงันอยู่สองสามวินาที จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าบ้านโดยไม่พูดอะไร มันไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ตอนนี้เธอทนไม่ได้ที่จะให้ใครมาอยู่ใกล้ๆ เธอบังคับตัวเองให้ก้าวเท้า เดินขึ้นบันไดประตูหน้าราวกับขาเธอรู้หน้าที่ ทั้งที่ความคิดเธอว่างเปล่าไปหมดแล้ว เธอรู้สึกเหมือนตัวเองลอยออกมานอกร่าง กำลังมองลงมาเห็นตัวเองเดิน…แถมยังเดินได้แย่อีกต่างหาก เห็นชัดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รู้จะพูดอะไร และเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรหรือวางตัวอย่างไร เสียงกรีดร้องดังลั่นอยู่ใต้ผิว แต่เธอหาวิธีกักมันเอาไว้ภายในได้ เธอยังไม่พังทลายเสียทีเดียว

    พอไปถึงบันไดขั้นบนสุด เธอก็ได้ยินเสียงไม่พึงปรารถนา พวกผู้สื่อข่าวยังอยู่นอกประตูไกลๆ แต่มีเสียงใบพัดดังกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกถึงเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังรี่เข้ามา ขณะเธอเสียบกุญแจ แสงไฟสปอตไลต์ก็สาดลงมาสว่างจ้าน่าพรั่นพรึง มันส่องเธอและตำรวจผู้เคราะห์ร้ายนายนั้นจนสว่างวาบ มนตร์สะกดคลายไป

    เธอรีบบิดกุญแจแล้วผลักประตู รู้สึกโล่งอกที่ได้หลบหนีไปจากเลนส์กล้องโทรทรรศน์ที่บุกรุกจากทางเบื้องบน เธอปิดประตูดังปังแล้วเอนหลังพิง ตอนนั้นเองเธอจึงยอมให้น้ำตาหลั่งไหลออกมาเป็นสาย ไหลหลั่งลงมาข้างแก้ม เธอร่ำไห้อย่างไร้เสียง ขาของเธองอพับอย่างช้าๆ จนทรุดลงกับพื้นหินเย็นๆ แผ่นหลังยังพิงบานประตูอยู่ เธอนั่งกอดเข่าเอามือโอบรอบศีรษะ พยายามยับยั้งไม่ให้ตัวเองพังทลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    ในหัวเธอมีแต่ภาพฮิวโกผุดขึ้นมา ภาพตอนครั้งแรกที่เธอได้เจอเขา เขาหล่อเหลาและมั่นอกมั่นใจเพียงใด ส่วนเธอเองก็เฉิดฉายเหมือนผีเสื้อที่ล่องลอยไปกับชีวิตโดยไม่ต้องกังวลสนใจสิ่งใด เธอรักงาน รักครอบครัว และรักเพื่อนๆ ของเธอ แต่ทำไมมันถึงมาลงเอยอย่างนี้ได้

    น้ำตาอันเงียบงันกลายเป็นเสียงสะอื้นทุ้มต่ำแห่งความโศก เธอนั่งกอดเข่าอยู่ข้างประตูเป็นเวลาสิบห้านาที จนกระทั่งได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาที่ทางรถหน้าตัวบ้าน มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นก่อนรถจะจอดสนิทเสียอีก เธอได้ยินบทสนทนาอู้อี้ แต่ฟังไม่ออก เธอรีบหยิบทิชชูยู่ยี่ออกมาจากแขนเสื้อ…เป็นนิสัยที่เลิกไม่ได้เสียทีแม้ฮิวโกจะคิดว่ามันแสดงถึงความไร้รสนิยมอย่างรุนแรง…จากนั้นก็เช็ดน้ำตา เธอยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างสั่นระริก และก่อนที่ผู้มาใหม่จะทันได้กดกริ่ง เธอก็เปิดประตูออกมาก่อน

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook