• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอดับจิต บทที่ 2

    เมื่อถึงออฟฟิศ เจ้าของอพาร์ตเมนต์ก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนผมทำหน้าที่จดบันทึก ได้ความว่า

    1. เวลา 7.20 นาฬิกาโดยประมาณ หลิวเหมยเจ้าของอพาร์ตเมนต์เดินทางมาถึงออฟฟิศในตึกตามปกติ บ้านของเธออยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก

    2. เวลา 7.25 นาฬิกาโดยประมาณ ฟู่เสี่ยวตะโกนโหวกเหวกวิ่งเข้ามาในออฟฟิศ จากที่หลิวเหมยเล่าถึงเหตุการณ์ ฟู่เสี่ยวขณะนั้นมีท่าทีตกใจอย่างมาก และศีรษะแตกมีเลือดไหล จากนั้นฟู่เสี่ยวได้เล่าให้หลิวเหมยฟังว่าบริเวณทางเดินชั้นสามมีคนตาย หลังจากที่เธอแน่ใจว่าฟู่เสี่ยวไม่ได้คิดไปเองจึงรีบขึ้นไปดู จากนั้นก็รีบแจ้งตำรวจทันที

    3. เวลาที่ทางสถานีตำรวจกลางได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ผ่านเบอร์ 110 ที่มีการบันทึกไว้นั้นเป็นเวลา 7:33 นาฬิกา 23 วินาที ซึ่งผู้โทรคือหลิวเหมย เธอกล่าวอีกว่าขณะนั้นฟู่เสี่ยวตกใจถึงขั้นไม่มีแรงเดิน

    4. จากการบันทึกเวลาของสถานีตำรวจกลาง หลังจากทำการแจ้งความ หลิวเหมยได้วางสายเวลา 7:38 นาฬิกา 4 วินาที หลังจากนั้นฟู่เสี่ยวบอกว่าจะไปโรงพยาบาลเพื่อเย็บแผล และอ้างว่าแผลนั้นได้มาจากการตกบันได หลิวเหมยเสริมอีกว่าขณะนั้นสภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยจะดีจึงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของฟู่เสี่ยวมากนัก จากนั้นฟู่เสี่ยวก็ออกไป

    5. เนื่องจากเสียงของหลิวเหมยและฟู่เสี่ยวค่อนข้างดังทำให้คนที่พักอยู่ในชั้นนั้นต่างเดินออกมาดู พอคู่รักห้อง 301 ได้เห็นสภาพศพก็ตกใจรีบวิ่งลงจากอาคารไป ผู้ชายห้อง 306 เมาหลับไม่ได้สติอยู่ในห้อง เขาและภรรยาจึงไม่ได้ออกมา ส่วนห้อง 304 ไม่ว่าหลิวเหมยจะเคาะประตูเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงคาดว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง

    6. จากนั้นหลิวเหมยรีบลงมาจากอาคารเพื่อรอตำรวจ ส่วนผู้อาศัยรายอื่นที่อยากขึ้นไปดูก็ถูกเธอห้ามขึ้นไปเช่นกัน

    ทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เจ้าของอพาร์ตเมนต์เล่าให้พวกเราฟัง แต่จะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่ยังต้องฟังคำให้การจากคนอื่นด้วย โดยเฉพาะฟู่เสี่ยว ผมจึงส่งข้อความไปหา ให้เขารีบกลับมา

    จากเบาะแสที่ได้ทั้งหมด ผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าตัดหัวยังคงเป็นฟู่เสี่ยวและเจ้าของอพาร์ตเมนต์ เนื่องจากฟู่เสี่ยวคือคนแรกที่พบศพจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก ส่วนเจ้าของอพาร์ตเมนต์คือผู้ต้องสงสัยรายที่สอง หลังจากที่ได้รับแจ้งจากฟู่เสี่ยวว่าพบศพบนอพาร์ตเมนต์ เธอใช้เวลาเพียงสองนาทีเท่านั้นในการขึ้นบันได หากนับจากเวลาที่ฟู่เสี่ยวเข้ามาในออฟฟิศตอนแรก รวมกับเวลาที่ทั้งสองคนขึ้นไปบนอาคาร น่าจะอยู่ที่ห้านาที ดังนั้นเวลาที่เจ้าของอพาร์ตเมนต์จะพบศพควรอยู่ที่ประมาณ 7.32 นาฬิกา เนื่องจากเจ้าของอพาร์ตเมนต์เป็นผู้หญิง ตามหลักแล้วหากเธอพบเหตุการณ์ที่น่าตกใจหรือน่ากลัวจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณสามถึงสี่นาทีในการสงบสติอารมณ์ จึงเป็นเรื่องแปลกที่เธอใช้เวลาเร็วขนาดนี้ในการเรียกสติและโทรแจ้งความ ผมจึงสอบถามคนรอบข้างถึงเหตุการณ์นี้

    “อพาร์ตเมนต์นี้เป็นของคุณคนเดียวเหรอครับ” ผมยิ้มให้เจ้าของอพาร์ตเมนต์

    “ก็ใช่น่ะสิ ทำไมเหรอ” เจ้าของอพาร์ตเมนต์กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

    “เปล่าครับ แค่ถามดู” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน พยายามให้น้ำเสียงเป็นมิตร “ไม่ทราบว่าแต่ก่อนคุณทำงานอะไรครับ ดูจากสภาพตึกแล้วยังใหม่อยู่เลย”

    “ถามอะไรเยอะแยะ มันเกี่ยวกับคดีตรงไหน!” เจ้าของอพาร์ตเมนต์ตวาด ไม่ว่าผมจะถามอะไรเธอก็มักใช้คำพูดและน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก ผมจึงหุบยิ้ม

    “ข้อมูลแวดล้อมนับว่าเป็นประโยชน์ต่อคดีครับ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ” ยิ่งเธอไม่ตอบคำถามมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น

    “ไม่มีงานทำ”

    “ไม่มีงานทำ? ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้ทำงานอะไรเลยเหรอครับ”

    “ใช่” เธอตอบเสียงแผ่วลง

    คำตอบและน้ำเสียงแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังปิดบังบางอย่างอยู่ แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเท่าไหร่ ผมจึงไม่ซักเธอต่อในเรื่องนั้น และหาคำถามอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีแทน

    “ไม่ทราบว่าคุณมีรายละเอียดของทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่หรือเปล่า”

    เจ้าของอพาร์ตเมนต์มองมาที่ผมก่อนพูด “ฉันก็แค่ปล่อยเช่าเท่านั้น ไม่มีข้อมูลอะไรมากขนาดนั้นหรอก ปกติก่อนที่ใครจะย้ายเข้ามาฉันก็ขอแค่สำเนาบัตรประชาชนอย่างเดียวเพราะไม่อยากสร้างความรำคาญ แต่เมื่อวันนั้นที่เจ้าหนุ่มนั่นย้ายเข้า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฝนตกฉันก็คงขอสำเนาบัตรประชาชนไว้แล้ว อีกอย่างฉันรู้ว่าคุณเป็นตำรวจก็เลยไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ฉันนี่มันซวยจริงๆ เลย ไม่รู้ว่าไอ้ที่ตายเนี่ยมันคือใครกันแน่” จากคำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกว่าเธอรำคาญมากกว่าตกใจด้วยซ้ำ

    “งั้นคุณก็มีรายละเอียดผู้เช่าน่ะสิ พวกสำเนาบัตรประชาชนอะไรพวกนี้ ผมขอดูหน่อยได้ไหม”

    เจ้าของอพาร์ตเมนต์พยักหน้า แล้วหันหลังไปหยิบแฟ้มเอกสารจากลิ้นชักข้างโต๊ะออกมาให้ผม ข้างในเป็นรายละเอียดต่างๆ ของผู้เช่า ด้านบนเป็นสำเนาบัตรประชาชน ส่วนด้านล่างเป็นรายละเอียดทั่วไปและเบอร์โทรติดต่อ ผมเปิดดูทีละหน้าก่อนจะถามต่อ

    “คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับผู้เช่าที่อยู่ชั้นสาม บอกผมเท่าที่รู้ได้ไหม”

    “คุณก็รู้จักเจ้าหนุ่มห้อง 303 ไม่ใช่หรือไง” เธอเริ่มหงุดหงิด

    ผมพยักหน้า “อืม ผมหมายถึงคนอื่น หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือในการบอกเงื่อนงำของคดีและให้ความช่วยเหลือนะครับ ถ้าพวกผมปิดคดีได้เร็วก็ไม่ต้องมารบกวนกิจการคุณอีก”

    เจ้าของอพาร์ตเมนต์ชักสีหน้า “กิจการอะไร ไม่แจ้งย้ายออกกันหมดก็ดีเท่าไหร่แล้ว เดี๋ยวขอคิดก่อนนะ คู่ที่อยู่ห้อง 301 ฉันว่ายังไม่ได้หมั้นกันเลย วัยรุ่นสมัยนี้มันก็กล้าเนอะ ส่วนห้อง 304 ฉันไม่ค่อยได้เจอหน้าหรอก ไอ้คนนี้ก็ดูแปลกๆ ฉันว่าพวกคุณไปถามอะไรเขาหน่อยก็ดีนะ”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook