• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอดับจิต บทที่ 3

    ร้านคาราโอเกะอยู่ใกล้ๆ กับร้านกาแฟ ห่างไปไม่เกินห้าร้อยเมตรเท่านั้น ตอนที่ออกมาจากร้านกาแฟท้องฟ้าข้างนอกก็มืดแล้ว ป้ายไฟของร้านคาราโอเกะเปิดอยู่ ร้านมีทั้งหมดสามชั้น กำแพงด้านนอกซึ่งตกแต่งด้วยกระจกเกือบทั้งหมดสะท้อนกับป้ายไฟจนเป็นสีทองอร่าม

    “ที่นี่เพิ่งทำใหม่” ผมพูดกับไป่ฉี “เมื่อก่อนผมเคยมาที่นี่ แต่ตอนนั้นมันไม่ได้เป็นอย่างนี้” ผมมั่นใจว่าเคยมาที่นี่เมื่อเดือนก่อนนี้เอง แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปมาก เหมือนกับว่าถูกก่อสร้างใหม่ทั้งหมด

    “ไม่นะครับ เมื่อวานมีคนไปเช็ดกระจกด้านนอกเฉยๆ” ไป่ฉีพูดขณะตามหลังผมมา

    “เช็ดกระจกตอนกลางคืนเนี่ยนะ” ผมหยุดเดินแล้วหันไปมองไป่ฉีที่อยู่ด้านหลัง เขามาที่นี่กับฟู่เสี่ยวตอนกลางคืน ดังนั้นตอนที่เห็นก็ต้องเป็นตอนกลางคืนเช่นกัน

    “อ้อ” ไป่ฉีสะดุ้งก่อนจะยิ้มให้ผม “ผมผ่านที่นี่ทุกเช้าน่ะ ไม่งั้นคงไม่เลือกร้านนี้หรอก ผมว่าบรรยากาศไม่เลว ดูสิ กำลังลดราคาด้วย” ไป่ฉีชี้ไปที่ประตูที่มีป้ายลดราคาติดอยู่

    “อืม” ผมพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วผลักประตูเข้าไปในร้าน

    เมื่อพนักงานเห็นผมกับไป่ฉีเดินเข้ามาต่างก็ต้อนรับกันเป็นอย่างดี ที่นี่บริการดีมาก ผมเดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงบาร์ พนักงานที่บาร์หันมายิ้มให้ผม ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรผมก็หยิบตราตำรวจออกมา พวกเขาตกใจเล็กน้อยก่อนถาม “ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ ให้ดิฉันโทรเรียกผู้จัดการไหมคะ”

    ผมพยักหน้า “อืม รบกวนด้วยครับ”

    พนักงานพยักหน้ารับก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นพูด “ตอนนี้ด้านหน้ามีตำรวจมาค่ะ คุณออกมาหน่อยได้ไหมคะ เขาบอกให้เรียกคุณค่ะ…ค่ะ” พอวางสายเธอก็ยิ้มให้ผมแล้วบอกให้ไปรอผู้จัดการของเธอที่โซฟาในห้องรับแขกสักครู่

    ไม่นานนักก็มีชายอายุราวสามสิบปีใส่เสื้อกล้ามกางเกงขายาวดูสะอาดเรียบร้อยเดินลงมาจากชั้นบน เขากึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางผมก่อนจะยิ้มแล้วจับมือทักทาย

    “ที่นี่คนตั้งเยอะ คุณรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นตำรวจ” ผมมองไปรอบๆ คนในห้องรับแขกนี้มีอยู่ไม่น้อย เลยทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ

    “ฮ่าๆ” ผู้จัดการหัวเราะ “ตำรวจอย่างพวกคุณมีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนกับคนอื่น ผมดูก็รู้” พูดเสร็จเขาก็ยื่นบุหรี่ให้ผม

    ผมยกมือขึ้นปฏิเสธ “ที่ผมมาที่นี่ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตอะไรหรอก คุณไม่ต้องตกใจ แค่มาขอตรวจสอบอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง” พูดเสร็จผมก็ยื่นใบเสร็จของฟู่เสี่ยวให้ผู้จัดการดูก่อนจะถามว่า “เมื่อคืนคุณมาทำงานหรือเปล่า ผมอยากจะตรวจสอบใบเสร็จใบนี้น่ะ”

    “อืม ผมเข้าทำงานเมื่อวาน ช่วงนี้ผมมาทุกคืนครับ” พูดจบเขาก็หยิบใบเสร็จไปดู ครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะหันไปมองไป่ฉีที่ยืนอยู่ด้านหลังของผม “นี่มันคือใบเสร็จที่คุณผู้ชายท่านนี้ชำระเมื่อคืนนี่ครับ ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

    “คุณจำลูกค้าทุกคนได้ทั้งหมดเลย?” ผมตกใจอย่างมาก

    “ฮ่าๆ ใช่สิครับ ทำธุรกิจแบบนี้ก็ต้องจำให้ได้สิครับ ผมจำลูกค้าของผมได้หมดทุกคนแหละ” ผู้จัดการยิ้มไปพูดไป “ใบเสร็จใบนี้เป็นใบเสร็จที่คุณผู้ชายท่านนี้กับเพื่อนของเขาชำระครับ พวกคุณนี่ดื่มเก่งจริงๆ มากันแค่สองคนแต่กลับดื่มเบียร์ตั้งสองลัง แถมยังมีเหล้าอีกตั้งหลายขวด”

    “คุณแน่ใจนะ แล้วเมื่อคืนพวกเขาแวะออกไปที่อื่นหรือเปล่า” ผมถาม

    “แน่ใจสิครับคุณ ดื่มหนักขนาดพวกเขาสองคนนี่มีไม่เยอะหรอก แถมเมื่อคืนพวกเขายังจ่ายเงินเยอะที่สุดด้วยก็ต้องจำได้สิ แต่ระหว่างนั้นพวกเขาแวบออกไปไหนหรือเปล่าผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ที่นี่เป็นสถานบันเทิงนะครับ ผมสังเกตความเคลื่อนไหวของลูกค้าทั้งหมดไม่ได้หรอก” ผู้จัดการพูดไม่หยุด “จริงสิ ที่ประตูมีกล้องติดอยู่ ถ้าคุณอยากจะดูก็ได้นะ จะได้รู้ว่ามีใครเข้าใครออกบ้าง ว่าแต่ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านนี้ไปทำอะไรไว้หรือครับ”

    “งั้นผมขอเทปที่ถ่ายไว้เมื่อคืนแล้วกัน” ผมไม่สนใจคำถามของผู้จัดการ

    “ช่วงเวลาไหนครับ” ผู้จัดการถาม

    ผมหันไปมองไป่ฉี “พวกคุณมาถึงที่นี่ประมาณกี่โมง”

    ไป่ฉีคิดสักครู่ก่อนตอบ “พวกเราน่าจะมาถึงกันประมาณสี่ทุ่มกว่า แต่สี่ทุ่มกี่นาทีนี่ผมจำไม่ได้ ส่วนเวลากลับก็เขียนอยู่บนใบเสร็จแล้ว”

    “งั้นก็เมื่อคืนตอนสี่ทุ่มจนถึงวันนี้ตอนเจ็ดโมงเช้าครับ” ผมบอกผู้จัดการ

    ผู้จัดการยิ้มพร้อมพยักหน้าและให้ผมกับไป่ฉีรออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนไปหยิบเทปที่บันทึกไว้มาให้ พอผู้จัดการเดินไป ผู้กำกับซ่งก็โทรมาหาผมพอดี หลังจากรับสายผมก็ต้องตกใจอย่างมาก เขาบอกว่าพบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ทำให้ผมต้องหันไปมองไป่ฉี

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook