• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 1

    มิน่าเล่าเสื้อผ้าอาภรณ์ของลูกเรือบนเรือจึงประหลาดแปลกตาอยู่บ้าง ใบหน้าละม้ายชาวถัง ทว่าคำพูดคำจากลับฟังกีลีกูลู มิอาจเข้าใจ

    คนรื่อเปิ่นเหล่านี้มิเคยได้ฟังเรื่องมังกรวารีหรืออย่างไร ไฉนกล้าเข้าสู่ทะเลมรณะแห่งนี้ อาจเนื่องจากพวกมันคิดถึงบ้านเกิดจึงกล้าเดินเรือกลับแม้เสี่ยงต่อการถูกมังกรร้ายคร่าชีวิต แต่ละปีมีเพียงช่วงเวลานี้ที่เส้นทางทะเลสู่รื่อเปิ่นลมสงบ เดินเรือค่อนข้างปลอดภัย พลาดช่วงเวลานี้ไปก็จำต้องรอถึงปีหน้า หากออกเดินเรือในฤดูอื่นอาจประสบคลื่นลมจมเรือคร่าชีวิต เปรียบเทียบกันแล้ว มังกรร้ายกลับมิใช่น่ากลัวที่สุด

    อาจบางที มีเพียงแรงปรารถนากลับสู่บ้านเกิดเท่านั้นที่ผลักดันผู้คนเดินทางสู่วังมังกรถ้ำพยัคฆ์

    จันทราสาดแสงลงเงียบเชียบ ส่องแสงนำทางไกลออกไปให้แก่เรือน้อยสามลำ ลมอ่อนเบาโชยผ่านมา ธงส่ายไหวขึ้นเล็กน้อย…

    ทันใดนั้นเอง!

    ในขณะที่เรือน้อยกำลังแล่นไปด้านหน้า ผิวน้ำทะเลเรียบราวกระจกเงาพลันแตกออก เรือโคลงไหวรุนแรง ผู้คนบนเรือมิทันระวังจึงล้มกลิ้งบนดาดฟ้า ยังไม่ทันตั้งตัวก็เห็นมังกรวารีมหึมาตัวหนึ่งทะยานผ่านคลื่นยักษ์ขึ้นกลางฟ้า! มันอยู่ใกล้ปานนั้น แสงจันทร์สาดลงบนเกล็ดมังกร แสงสีเงินสว่างไสว สะท้อนเจิดจ้าจนผู้คนดวงตาพร่าลาย

    เมื่อมังกรยักษ์โลดทะยาน น้ำทะเลเททะลักลงมาปานพายุฝน เรือเอียงซ้ายเอียงขวา คนก็กลิ้งจากฟากนี้ไปฟากนั้น น้ำทะเลกระหน่ำเข้ามาไม่ขาดสายทั้งด้านบนและรอบข้าง เรือจวนเจียนคว่ำจมไปในทะเลคลั่งทันที แม้เรือยืนหยัดผุดขึ้นบนผิวน้ำได้อีกครา ทว่าเรือสามลำที่เล็กถึงปานนี้จะทานรับได้นานเท่าไรเล่า

    มังกรวารีคล้ายมองออกว่าเหยื่ออ่อนแอนัก จึงมิได้ใช้พละกำลังแต่อย่างใด หากแต่เย้าหยอกเล่นสนุกกับเรือน้อยคล้ายแมวหยอกหนู ทรมานเหล่าเหยื่อที่รนมาหาถึงหน้าประตู เหล่าคนรื่อเปิ่นบนเรือต่างตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ได้แต่ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายก่อนตาย

    แม้หน้าสิ่วหน้าขวานเรือกำลังจะคว่ำจม ในห้วงคับขันนั่นเองผู้นำของหมู่ชาวรื่อเปิ่นก็ปีนขึ้นเสากระโดงบนเรือหลัก พยายามกางผืนธงที่อยู่บนยอดเสากระโดง ตะโกนออกมาเป็นภาษาถัง “อัญเชิญนางเงือก!”

    ความจริงแล้วธงผืนนี้มีชั้นนอกและชั้นใน เมื่อกระชากธงรื่อเปิ่นที่เป็นชั้นนอกออก ธงผ้าไหมห้าสีสดใสพลันปรากฏ ราวสายรุ้งทอดตัวกลางฟ้าราตรี

    พริบตานั้นกระทั่งมังกรวารีก็คล้ายตกตะลึงชะงัก

    บนผิวทะเลพลันสงบลงครู่หนึ่ง จากนั้นไม่นานไม่ไกลออกไปพลันเห็นคลื่นแยกออก น้ำทะเลหนุนฟองสีดำขึ้นสูง รองรับเงาร่างมนุษย์ผู้หนึ่ง ทั่วร่าง ‘นาง’ ทั้งบนล่างคลุมด้วยปีกขนนกโปร่งใส ลอยขึ้นลงตามกระแสคลื่น ศีรษะมีเส้นผมยาวพลิ้วสยายตามสายลม ร่างท่อนล่างกลับเป็นหางปลายาวส่ายขึ้นลงระหว่างระลอกคลื่น

    ผู้คนบนเรือตื่นเต้นยินดีโห่ร้อง “นางเงือก นางเงือกมาแล้ว!”

    ทว่า ‘นาง’ กลับมิใส่ใจพวกมัน และแหงนหน้าขึ้นจ้องเขม็งยังมังกรวารี มังกรวารีก็กำลังมองมาที่ ‘นาง’ ทุกผู้คนต่างล้วนกลั้นลมหายใจสงบนิ่ง คล้ายเวลาก็หยุดนิ่งไปด้วยแล้ว

    แสงจันทร์ประทับบนใบหน้า ‘นาง’ งามสะคราญยากพบพานในใต้หล้า ทว่ากลับฉายความเศร้าอยู่หลายส่วน ‘นาง’ พยักหน้าแก่มังกรวารีอย่างแช่มช้า ยกแขนขวาขึ้นโบกแผ่วเบาคล้ายกำลังลูบตัวมังกรวารี อีกทั้งคล้ายกำลังใช้สายตากล่าวอันใดแก่มัน

    มังกรวารีก้มหัวขนาดใหญ่ลง หนวดส่ายแผ่วเบาคล้ายกลายเป็นลูกแกะเชื่องไปเสียแล้ว

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook