• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 4 บทที่ 1

    หน้าที่แล้ว1 of 9

    เดรัจฉานมีเขี้ยวงอกเขา หน้าเล็บหลังเดือย สุขร่วมฝูง คลั่งชนตี

    มรรคาแห่งสวรรค์ มิอาจหยุดได้

    ผู้ไร้อาวุธจากฟ้าย่อมต้องเตรียมเอง เป็นกิจแห่งยอดคน

    จักรพรรดิหวงตี้สร้างกระบี่ คือสัญลักษณ์แห่งการนี้

     

    ‘ตำราพิชัยซุนปิ้น ซุนจื่อแห่งแคว้นฉี บทเตรียมกำลัง’


    บทที่ 1

    เคลื่อนขบวน

     

    อาทิตย์สาดแสงแผดเผากลางหาว ส่องถนนอันกว้างขวางของเมืองซีอาน เงาดำของหลังคาตกทอดบนพื้นเป็นผืนแผ่น กำแพงดินเหลืองทุกด้านสะท้อนสีสันประหลาดดุจกำลังลุกไหม้

    ถนนของเมืองเสมือนกระดานหมาก ถูกปกคลุมอยู่ในปฏิปักษ์อันแรงกล้าของแสงสว่างและความมืด

    เป็นยามบ่ายของวันฟ้าโปร่ง ทว่าถนนหนทางกลับปกคลุมด้วยบรรยากาศตึงเครียดรุนแรง

    เป็นเวลาของการสัประยุทธ์

    โรงเตี๊ยมหลินเหมินเปิดกิจการอยู่ที่ถนนใหญ่ของประตูใต้นานกว่าสิบห้าปีแล้ว สิบห้าปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสักบ่ายที่ทั้งในและนอกโรงเตี๊ยมจะเงียบสงัดจนน่ากลัวเช่นขณะนี้

    ความเงียบงันแปลกประหลาดนั้นลุกลามไปยังตรอกถนนโดยรอบหลายสิบก้าว ผู้คนที่สัญจรบนถนนบางตา ประตูร้านค้าสองฝั่งปิดสนิทเหมือนกำลังหลบลี้หนีบางสิ่ง แม้แต่สุ้มเสียงไหวพลิ้วของป้ายที่หันหาถนนท่ามกลางลมวสันต์ก็ได้ยินอย่างชัดเจน

    ผู้คนที่ยังคงอยู่บนถนนกว่าครึ่งแต่เดิมคือผู้ที่ตั้งใจมาร่วมกันสำราญที่โรงเตี๊ยมหลินเหมิน ทว่ากลับมิได้ถูกต้อนรับเข้าร่วม พวกมันมิได้ส่งเสียงใดๆ แต่ละคนต่างปิดปากสนิทจับจ้องประตูสีแดงของโรงเตี๊ยมเงียบๆ

    ผู้ที่มองประตูอยู่ด้วยกันกับพวกมันยังมีผู้ตรวจการที่สวมชุดเครื่องแบบสามคน พวกมันไม่พกแม้แต่กระบอง เพียงยืนอยู่ที่มุมตรอกถนนและมิได้พูดคุยกันเช่นชาวบ้านทั่วไป

    เจ้าพนักงานเหล่านี้ย่อมรู้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องอันใดขึ้น

    เหยียนชิงถงเจ้าบ้านใหญ่สำนักคุ้มภัยเจิ้นซีได้ใช้เส้นสายและเงินทองนัดแนะกับทางการซีอานไว้ก่อนแล้ว ใต้เท้าเจ้าเมืองประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรต่อผู้คนว่าวันนี้ไม่ว่าในเมืองจะเกิดเรื่องใดขึ้น เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจการและทหารอาสาคุ้มกันล้วนห้ามลงมือ

    เรื่องเหตุผล คนทั้งหมดล้วนรู้ชัด

    บุญคุณความแค้นในยุทธภพ ไม่มีที่ให้พวกมันก้าวก่าย

    โคมแดงสองแถวที่แขวนอยู่นอกโรงเตี๊ยมหลินเหมินแกว่งไกวรับลมอย่างต่อเนื่องในความเงียบงัน

    ประตูสีแดงบานนั้นเปิดออกในที่สุด

    คนทั้งหมดบนถนนอ้าปากพร้อมกัน ส่งเสียงโห่เบาๆ คราหนึ่ง

    ผู้ที่ก้าวออกมาเป็นอันดับแรกจากประตูที่เปิดกว้างคือนักสู้แต่ละสำนักจากทุกแห่งหนกว่าหกสิบเจ็ดสิบคนที่นั่งอยู่โถงชั้นล่างของโรงเตี๊ยมหลินเหมิน พวกมันมิได้เก็บอาวุธในถุงสัมภาระอีก ทว่านำมาแขวนไว้ตรงข้างเอวหรือสะพายหลังอย่างโต้งๆ อาศัยโอกาสอันหาได้ยากนี้โอ้อวดอำนาจบนถนนของเมืองยามฟ้าแจ้ง

    พวกมันรู้ดีว่าศึกในวันนี้ตนเองไม่มีคุณสมบัติลงมือ แต่ไต่เต้าอยู่ในทัพพันธมิตรยุทธภพส่วนนี้ได้ก็นับว่าเป็นเกียรติแล้ว

    ก่อนหน้าขณะชุมนุมอยู่ในโรงเตี๊ยมพวกมันล้วนยังกอดอารมณ์สำราญร่วมกันอยู่ ดีอกดีใจประหนึ่งงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ทว่ายามนี้แต่ละคนกลับสีหน้าเคร่งเครียด ไม่มีผู้ใดกระซิบกระซาบพูดคุย เพียงค่อยๆ ก้าวออกประตูโรงเตี๊ยม แบ่งเป็นยาตราไปทางตะวันตกและตะวันออกของถนนใหญ่ทางประตูใต้ ครั้นยืนจัดแถวข้างทางถนนเสร็จ จึงเห็นรูปขบวนประหนึ่งล้อมอารักขาโรงเตี๊ยม

    หน้าที่แล้ว1 of 9

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook