• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 5 บทที่ 1

    กลุ่มผู้ชมข้างเวทียามนี้ดั่งเพิ่งตื่นจากนิทรา พวกมันต่างโห่ร้องแสดงความยินดีให้เด็กหนุ่มสำนักหู่จุนวัยสิบห้าปีผู้นี้เสียงดังสนั่น

    ได้รับเสียงชื่นชมดุจฟ้าร้องเช่นนี้บนเวที จิงเลี่ยกลับไม่แสดงสีหน้า มันหมุนตัวหันหน้าไปทางใต้ มองไปยังริ้วขบวนธงที่กลุ่มคนสี่สำนักนั่งอยู่เต็มไปหมด

    มันใช้แววตาเย็นชามองตรงไปยังบุรุษที่อุ้มมันขึ้นมาจากบนหาดหินเลี่ยอวี่เมื่อสิบห้าปีก่อนผู้นั้น

    จิงเจ้าและจิงเลี่ยมองหน้ากันจากไกลๆ ทั่วร่างเจ้าสำนักหู่จุนล้วนกำลังสั่นเทาอย่างรุนแรง ขวดในมือมีสุรากระเซ็นออกมาไม่หยุดหย่อน

    ไม่มีผู้ใดรู้ว่าการสั่นเทาของจิงเจ้าเป็นเพราะดื่มสุราจนเมามาย ถูกบุตรบุญธรรมขัดขืนจนเดือดดาล หรือเพราะเห็นจิงเลี่ยแสดงพฤติกรรมที่เกินกว่ามันคาดการณ์ด้วยตาตนเองจนตกใจ…แสงแดดของคิมหันตฤดูยังคงสาดส่องบนเวทีประลองริมทะเลนี้ การประลองแต่ละรอบที่กำหนดจัดขึ้นล่วงหน้าในวันนี้ดำเนินการไปเพียงครึ่งหนึ่ง

    แต่ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมด ณ ที่แห่งนั้น ในใจกลับรู้สึกชัดเจนว่ามีบางสิ่งสิ้นสุดลงแล้ว

     

    ถึงท้ายที่สุด อาจารย์อาเผยซื่ออิงก็ยังคงหามันพบ

    มันยืนอยู่บนหินผาแผ่นเดิมที่เมื่อคืนวานเคยหันหาทะเล แกว่งดาบติดต่อกันหมื่นครั้ง ที่สวมบนร่างยังเป็นเสื้อผ้าขณะต่อสู้เมื่อกลางวัน ดาบไม้ทิ้งไว้บนเวทีประลองก่อนหน้าแล้ว ขณะนี้ในมือค้ำยันไว้ด้วยวัตถุยาวที่สูงกว่าตนเองด้ามหนึ่ง ในอนธการมองไม่เห็นว่าสิ่งของนั้นคืออันใด

    มันมองเห็นแสงของโคมไฟจุดหนึ่งจากไกลๆ เลียบเส้นชายฝั่งทะเลเข้ามาใกล้ด้านนี้ ก็รู้ว่าต้องเป็นอาจารย์อาอย่างแน่นอน

    ปีนป่ายก้าวเดินอยู่ในกลุ่มหินผายามกลางคืน ซ้ำมือหนึ่งยังต้องถือโคมไฟเอาไว้ ความจริงค่อนข้างอันตราย ขณะเผยซื่ออิงเดินไปใกล้จิงเลี่ย ทั้งร่างเผยซื่ออิงล้วนชุ่มเหงื่อแล้ว

    “ข้าเคยบอกว่าหากเจ้าจะหลบก็หาที่ให้มันใหม่สักหน่อยมิใช่หรือ” เผยซื่ออิงแค่นยิ้มพลางกล่าว

    “ให้ข้าเดา” จิงเลี่ยกลับไร้ซึ่งรอยยิ้ม ดวงตายังคงมิได้ละจากทะเลดำมืด “ข้าถูกอาจารย์ไล่ออกจากสำนักหู่จุนแล้ว ใช่หรือไม่”

    “เจ้าเดาผิดแล้ว” เผยซื่ออิงส่ายหน้าอย่างสะเทือนใจ “แม้แต่ข้าเองก็เดาผิด เช่นนี้ดีแล้ว เพียงแต่สำนักหลิงซานทั้งสำนักล้วนเคลื่อนพลมาสืบความ เพราะการฝ่าฝืนนัดหมายของการประลองครั้งนี้ สำนักหมิ่นเจียวกับสำนักตี้ถังเองก็เช่นเดียวกัน พวกมันยังบอกว่าเจ้าลอบเรียนวรยุทธ์ของพวกมันสองสำนัก จึงพากันมาถามความจริง สามสำนักรวมกันประมาณสองร้อยคน ล้อมอยู่ด้านนอก ‘โถงหู่ซาน’ ของพวกเรา บีบให้ศิษย์พี่เจ้าสำนักมอบตัวเจ้าออกมา”

    มือซ้ายเผยซื่ออิงกุมด้ามดาบที่พันแถบผ้าเก่าขาดนั้นตรงข้างเอวไว้แน่น

    “แต่อาจารย์เจ้าปฏิเสธ”

    จิงเลี่ยหันหน้ามาอย่างผิดคาด มองหน้าตึงเครียดของอาจารย์อา

    “มิเพียงเท่านี้” เผยซื่ออิงกล่าว “มันกลับคุกเข่าโขกศีรษะขออภัยต่อเจ้าสำนักทั้งสาม ขอร้องให้ปล่อยเจ้า หลายสิบปีที่ผ่านมาข้าไม่เคยเห็นจิงเจ้าพยัคฆ์วชิระคำรนทำเช่นนี้เพื่อผู้อื่น”

    ภายใต้โคมไฟส่องสะท้อน ดวงตาของจิงเลี่ยเต็มแดงก่ำ

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook