• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 5 บทที่ 1

    จางเอ๋ารูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ สำแดง ‘หมัดพลิกแม่น้ำ’ ของสำนักบนเวที ท่วงท่าแผ่ขยาย เข้มแข็งดุจมังกรวารีสมดังชื่อสำนัก* กลุ่มคนที่ล้อมอยู่ข้างเวทีแม้มีมากมายไม่รู้วิทยายุทธ์ก็มองดูอย่างตื่นเต้นเช่นเดียวกัน ทั้งยังปรบมือโห่ร้องไม่หยุดหย่อน

    จิงเยวี่ยย่อขาท่านั่งม้า แขนทั้งสองร่ายโบกอยู่หน้าลำตัว รับการออกหมัดเตะเท้าของฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อย ป้องกันได้มิดชิดอย่างยิ่งทำเอาผู้ชมโห่ร้องชมเชย

    บิดาของจิงเยวี่ย…ก็คือบุรุษทรงอำนาจผู้นั้นที่เมื่อครู่เปล่งเสียงตวาดด่า ทุบขวดสุราแตก โบกมือปัดเศษขวดที่ยังคงติดอยู่กลางฝ่ามือออกไป จากนั้นบอกเป็นนัยแก่ศิษย์ข้างกายให้เอามาอีกหนึ่งขวด

    ดวงตาที่หนังตาหย่อนยานทั้งสองของมันแดงก่ำ ยังไม่พ้นยามอู่ก็เมามายเสียแล้ว แต่เหล่าศิษย์มิกล้าฝ่าฝืนคำสั่งอาจารย์ ดึงจุกของเหล้าอีกขวดหนึ่งออกอย่างว่านอนสอนง่าย ส่งให้ในมือมัน

    มันกรอกอึกใหญ่ สุราล้นออกจากมุมปากไหลสู่คาง ถูกเคราดูดซับไว้ ไม่แม้แต่จะมองบุตรชายที่กำลังประลองอย่างดุเดือดกับผู้อื่นบนเวทีสักแวบ

    …ไม่ต้องดู เนื่องเพราะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว

    เช่นดังว่า เพราะในขณะต่อมาจิงเยวี่ยบนเวทีก็สำแดงกระบวนท่ากรงเล็บพยัคฆ์ยึดจับ นิ้วทั้งห้าคว้าจับข้อมือที่จางเอ๋าชกตรงมา ฉุดดึงตามท่า ในขณะเดียวกันมืออีกก็ข้างปล่อย ‘หมัดพยัคฆ์ห้าวชิระ’ โจมตีข้างเอว!

    จางเอ๋าร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด จิงเยวี่ยฉวยโอกาสนี้ใช้เท้างอกวาด ผสานกับการดึงจับของกรงเล็บพยัคฆ์ทุ่มจางเอ๋าไปยังขอบเวทีประลอง จางเอ๋าล้มกลิ้งไม่ทันหยุดนิ่งก็ตกจากเวทีไป จึงพ่ายแพ้ในทันที

    เมื่อแพ้ชนะแยกชัด กลองด้านล่างที่มุมเวทีก็ตีเสียงดังขึ้นทันที กลุ่มผู้ชมหลายร้อยโดยรอบโห่ร้องยินดีสะเทือนเลื่อนลั่น

    จิงเยวี่ยยิ้มน้อยๆ ชูมือทั้งสองขึ้นสูง ประสานหมัดแสดงความขอบคุณไปยังสี่ด้าน ยามนี้จางเอ๋าเองก็ยืนขึ้นที่ด้านล่างเวที ดูเหมือนมิได้รับบาดเจ็บหนักอะไร และแสดงมารยาทให้จิงเยวี่ยบนเวที

    “ประเสริฐ!” สหายร่วมสำนักหู่จุนแห่งหนานไห่ที่ยืนอยู่ใต้ขบวนธงต่างก็ชูแขนโห่ร้องยินดี เปล่งเสียงตะโกนสุดจิตสุดใจ เนื่องเพราะพวกมันล้วนรู้ว่านี่จะเป็นชัยชนะเพียงหนึ่งเดียวของสำนักในวันนี้ ศิษย์คนหนึ่งในนั้นพลันโบกธงตัวหนังสือสีขาวพื้นหลังสีดำของสำนักหู่จุน แสดงต่อกลุ่มคนที่อยู่ในการประลอง

    มีเพียงจิงเจ้าเจ้าสำนักของพวกมันที่ยังคงนั่งดื่มสุราอยู่บนเก้าอี้ มิได้แสดงความปีติยินดีต่อชัยชนะของบุตรชายเลยสักนิด

    “ถุ้ย…ในเมื่อชนะการต่อสู้ก็ควรชนะอย่างงดงามสักหน่อย” จิงเจ้าเหมือนกล่าวพึมพำกับตนเอง “เพราะเหตุใดไม่ลงมือหนักอีกหน่อย” ผู้ที่ยึดครองพื้นที่ด้านซ้ายใต้ริ้วขบวนธงคือกลุ่มคนสำนักหมิ่นเจียว พวกมันหาได้แสดงออกว่าผิดหวังอย่างมากต่อการพ่ายแพ้กลับมาของจางเอ๋าไม่ เพียงตบบ่ามันแสดงการปลอบใจ เฉิงปินเจ้าสำนักหมิ่นเจียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มองมาที่สำนักหู่จุนด้านนี้

    เจ้าสำนักสองคนมองหน้ากันแวบหนึ่งจากไกลๆ เพียงพยักหน้าให้กันเล็กน้อย ในนั้นหามีความเป็นอริแม้สักนิด

    * ชื่อสำนัก ‘หมิ่นเจียว’ แปลว่ามังกรวารีแห่งแดนหมิ่น (ฝูเจี้ยน) ‘หมัดพลิกแม่น้ำ (ฟานเจียงเฉวียน)’ เป็นวิชาที่มีลักษณะท่วงท่าสื่อสะท้อนถึงมังกรวารี

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook