• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 5 บทที่ 1

    จิงเลี่ยคือทารกถูกทิ้งที่จิงเจ้าเก็บมาจากริมฝั่งขณะออกท่องเกาะเลี่ยอวี่* เมื่อสิบห้าปีก่อน ชื่อก็ตั้งมาจากเหตุนี้ จิงเลี่ยที่เติบโตอยู่ในสำนักหู่จุนแห่งหนานไห่ตั้งแต่เด็กกลับเพิ่งได้รับอนุญาตให้ร่ำเรียนวิทยายุทธ์ของสำนักตอนอายุสิบเอ็ดปี…จิงเยวี่ยบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของจิงเจ้าขณะอายุห้าปีก็เริ่มฝึกวิชาพื้นฐานแล้ว จิงเลี่ยมักคิดว่าอาจารย์คงไม่ชอบบุตรบุญธรรมอย่างมันกระมัง…แต่ในเมื่อไม่ชอบ เพราะเหตุใดจึงเก็บมันกลับมาอีก

    มีเพียงเผยซื่ออิงที่รู้ถึงเหตุผลที่ศิษย์พี่ไม่ชอบบุตรบุญธรรมผู้นี้ นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งขณะจิงเลี่ยอายุเพียงสองปี จิงเลี่ยเองย่อมจำมิได้

    วันนั้นในลานฝึกยุทธ์สำนักหู่จุนที่ปราศจากผู้คน จิงเลี่ยในวัยสองปีเดินเข้าไปเล่นซน มันรู้จักตั้งไข่ได้เร็วมาก…ตอนนั้นมันเก็บดาบไม้สั้นอันหนักอึ้งเกินไปสำหรับตนเองขึ้นมา จิงเจ้าและเผยซื่ออิงเดินเข้ามาพอดี มองเห็นเด็กตัวเล็กเตี้ยผู้นั้นกลับใช้ดาบตั้งท่าต่อสู้ได้

    กล่าวตามจริงย่อมมิใช่ท่าต่อสู้พร้อมประจัญอย่างแท้จริงอันใด เพียงยกดาบไปยังตำแหน่งที่ใช้แรงกวัดแกว่งได้มากที่สุดอย่างเป็นธรรมชาติเท่านั้น

    ยามนั้นเผยซื่ออิงมองเห็นกับตาว่าสีหน้าศิษย์พี่เจ้าสำนักเปลี่ยนไป

    หลายปีต่อจากนั้น จิงเลี่ยยิ่งโตขึ้นยิ่งเหมือนวานรที่นั่งไม่นิ่งตัวหนึ่ง ปีนต้นไม้ ขว้างหิน ว่ายน้ำ กระโดดเชือก…การละเล่นที่ต้องใช้แรงกายและการสอดประสานเหล่านี้ ขอเพียงมันเล่นกับเด็กแถวบ้านครู่หนึ่งก็เล่นเป็นทั้งหมด

    เผยซื่ออิงรู้ว่าจิงเจ้าในตอนนั้นได้ตัดสินใจแล้วว่าจะมิให้จิงเลี่ยเรียนยุทธ์

    ทั่วทั้งสำนักหู่จุนล้วนรู้ว่าจิงเจ้าตั้งใจเลี้ยงดูจิงเยวี่ยบุตรชายโทนของตนเองให้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไป ที่เก็บจิงเลี่ยมาในตอนแรกเพียงเพื่อหวังให้เป็นผู้ช่วยของบุตรชายตนในภายภาคหน้า มันเปลี่ยนชื่อบุตรชายเป็น ‘เยวี่ย’* ก็เพราะปรารถนาให้มันข้ามผ่านตนเองในอนาคต…แล้วจะให้เด็กที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตคนหนึ่งข้ามผ่านบุตรชายตนเองได้อย่างไรความเห็นแก่ตัวนี้ของจิงเจ้าเป็นสาเหตุที่ทำให้ในสิบปีที่ผ่านมาคนในสำนักหู่จุนแห่งหนานไห่ต่างโรยรา ลูกศิษย์ที่หลีกหนีตีจากไปอย่างท้อแท้สิ้นหวัง หลายปีมานี้รวมกันได้ยี่สิบกว่าคน อาจารย์อาสองท่านเองก็จากไปเพราะไม่พอใจแนวทางปฏิบัติของศิษย์พี่เจ้าสำนัก นับจากนั้นสำนักหู่จุนก็เหลือเพียงอาจารย์อาเผยซื่ออิงผู้นี้

    แต่ว่าอย่างไรจิงเลี่ยเองก็แซ่จิง หากว่าแม้กระทั่งวรยุทธ์ของสำนักหู่จุนสักนิดก็ไม่รู้ ในสายตาคนภายนอกคงจะเป็นเรื่องประหลาดอย่างยิ่ง กอปรกับศิษย์จำนวนมากช่วยพูดให้เด็กคนนี้ สี่ปีก่อนจิงเจ้าจึงกล้ำกลืนฝืนใจรับจิงเลี่ยเข้าสำนักอย่างเป็นทางการ ทว่านอกจากถ่ายทอดมวยให้อย่างพอเป็นพิธีไปตามอำเภอใจในวันกราบอาจารย์แล้วนั้น ก็ไม่เคยสอนวิทยายุทธ์มันอีกเลยสักครั้งเดียว เพียงทิ้งมันให้ศิษย์น้องเผยที่ไม่ประสบความสำเร็จดูแล คิดว่าจากนี้ไปจะวางใจได้

    มันประเมินเผยซื่ออิงคนนี้ต่ำเกินไป…และประเมินจิงเลี่ยต่ำเกินไป

    “รีบสวมเสื้อผ้าแล้วตามข้ามาเร็วเข้า” เผยอิงซื่อพันมือของจิงเลี่ยเสร็จแล้วตบหัวไหล่มันพลางกล่าว “มิฉะนั้นจะขึ้นเวทีประลองไม่ทันจริงๆ”

    “มิได้นะ” จิงเลี่ยดึงผ้าโพกศีรษะสีครามผืนหนึ่งออกมาคลุมผมไว้ แย้มยิ้มให้อาจารย์อา “ข้ายังมิได้ยืดเส้นยืดสาย…”

    * เกาะเลี่ยอวี่ หรือหมู่บ้านเลี่ยอวี่คืออำเภอจินเหมินในปัจจุบัน มีอีกชื่อหนึ่งคือ ‘เสี่ยวจินเหมิน’ คำว่า ‘เลี่ย’ ในชื่อนี้ใช้อักษร 烈 ซึ่งหมายถึง ‘โชน’ ใช้อธิบายลักษณะของไฟ อาการ และภาวการณ์ที่ดุเดือดรุนแรง

    * เยวี่ย (越) ในชื่อของจิงเยวี่ย หมายถึง ข้ามผ่าน

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook