• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 5 บทที่ 3

    ด้วยหลักการเดียวกัน อิ่นอิงชวนที่จมอยู่กับวิถียุทธ์สี่สิบปีไหนเลยจะไม่รู้ แม้จะครองความเป็นต่อได้ชั่วคราว แต่มันไม่ดูถูกศัตรูอย่างเด็ดขาด

    …มิอาจเผยความลับ ต้องรีบเผด็จศึก

    หลังลมวายุสะบั้นหญ้าดาบที่สาม อิ่นอิงชวนก็ก้าวเท้าซ้ายออกอีกเช่นก่อนหน้า

    แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ขาซ้ายข้างนั้นมิได้ยื่นออกไปทางกุ้ยตันเหลย แต่เป็นก้าวขวาง อีกทั้งปลายเท้าหมุนเข้าข้างใน ท่าหมุนตัวแต่เดิมหยุดชะงักลงในชั่วพริบตา!

    ในขณะเดียวกันท่ากอดดาบของมันเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้พาดสันดาบไว้บนข้อพับแขนซ้าย

    เท้าซ้ายนั้นหยุดชะงักการหมุนตัวอย่างดื้อๆ ย่อมก่อเกิดแรงกระทำกลับทิศทาง อิ่นอิงชวนจึงอาศัยแรงกลับทิศนี้ก้าวเท้าขวาออก ร่างกายแปรเป็นหมุนจากซ้ายไปขวาในชั่วขณะ แขนซ้ายออกแรงไปยังด้านสัน ก่อเกิดเป็น ‘ดาบพลิกหมุนอัคคีเพลิงผลาญฟ้า’ ท่าที่หกของดาบแปดลักษณ์ราตรีโรมรัน ใช้ทิศทางของสามกระบวนท่าเมื่อครู่ฟันกลับมา!

    ภายใต้การเปลี่ยนแปลงประหลาดนี้ กุ้ยตันเหลยถอยอีกอย่างเร่งรีบ

    คมดาบที่ครูดกับกำแพงด้านซ้าย มุมตวัดขึ้นบนเล็กน้อย จู่โจมตรงไปยังใบหน้ากุ้ยตันเหลย ครั้งนี้มันถูกบีบจนคลายกระบวนท่าต่อสู้ออก เงยหน้าหลบหลีก ผมหยักหลายเส้นถูกคมดาบกว้างยาวนั้นตัดขาดกลางอากาศ!

    คิ้วขาวดำทั้งสองของอิ่นอิงชวนขมวดแน่น หว่างคิ้วขมวดเป็นรอยตรงเส้นหนึ่งดุจเข็มแหลม ตาทั้งสองเหมือนแผ่สะเก็ดไฟออกมา

    ยังห่างเล็กน้อย!

    ในขณะเดียวกันกุ้ยตันเหลยเริ่มหวาดกลัวในใจ เดิมทีมันยังคงคาดคะเนจังหวะและความเร็วที่ฟันหมุนติดต่อกันนั้นของอิ่นอิงชวนอยู่ แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับหมุนกลับทิศกะทันหันได้เช่นนี้ เป็นการเพิ่มตัวแปรมากมายขึ้นอย่างฉับพลัน ถ้าหากอิ่นอิงชวนคือลูกข่างที่พกพาความเฉียบคมเอาไว้ บัดนี้ลูกข่างนี้ยังหมุนทวนได้ตลอดเวลา จะยื่นมือไปจับมันให้หยุดก็ลำบากขึ้นเกินเท่าตัว!

    กุ้ยตันเหลยคิดมาตลอดว่าแปดสำนักใหญ่ที่สำนักอู่ตังต้องรับมือ มีเพียงห้าขุนเขาเช่นเส้าหลินหรือฮว่าซานที่ค่อนข้างจัดการยาก ไม่ทันคิดว่าที่แท้ในสำนักปากว้าเองก็ซ่อนบุคคลที่ยากต่อกรด้วยเช่นนี้เอาไว้!

    นักเรียนตรงหน้าต่างชั้นบนย่อมมองไม่ออกว่าสำนักใดที่สู้กันอยู่ ดวงตาที่มิเคยฝึกฝนยิ่งจับภาพไม่ได้แม้แต่เงาดาบของอิ่นอิงชวน แต่พวกมันเห็นดาบเดี่ยวขนาดใหญ่ที่นักสู้อายุไม่น้อยผู้นี้ถืออยู่เหมือนเปลี่ยนเป็นพายุหมุนที่แผ่กระจายไอสังหารอยู่ในตรอก เศษหินอิฐสองฝั่งกำแพงลอยลิ่ว พบความพิศวงเช่นนี้ต่างก็ร้องด้วยความตกใจพร้อมกันตามสัญชาตญาณอย่างเลี่ยงมิได้

    เหล่านักสู้ที่ยืนอยู่เกือบด้านหลังตรอกมองเห็นการสัประยุทธ์ไม่ชัด ต่างหมายเบียดกันชมดูด้านหน้า แต่ตรอกเส้าฉือคับแคบเกินไปจริงๆ คนเกือบร้อยเบียดกันเป็นก้อน วุ่นวายอย่างมาก ศิษย์สำนักปากว้าที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดเอาแต่มองดูยอดวิชาของสำนักที่อาจารย์อาแสดงอย่างเคร่งเครียด ด้านหลังยังถูกคนกลุ่มใหญ่เบียด อารมณ์ปั่นป่วนอย่างมาก แต่ละคนล้วนกุมอาวุธแนบแน่น

    แลเห็นกุ้ยตันเหลยอับจนหนทาง อิ่นอิงชวนย่อมไม่เปลี่ยนแปลงวิธีรบ บีบไปข้างหน้าและหมุนตัวฟันขวางดังเก่า กุ้ยตันเหลยจะป้องกันกระบวนท่าดาบที่มาซ้ายบ้างขวาบ้างของอิ่นอิงชวน การถอยหลังคือทางรอดเพียงหนึ่งเดียว

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook