• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 14 ตอนที่ 2

    โม่ซันซันตอบโดยไม่ต้องคิด

    “เหนือกว่ามาก”

    หนิงเชวียปากอ้าตาค้าง รู้สึกว่าศักดิ์ศรีของตัวเองถูกทำลายย่อยยับอีกครั้ง

    ศิษย์พี่สี่พยักหน้าอย่างพอใจ

    “เช่นนั้นเจ้าก็มีคุณสมบัติพอที่จะดูการอนุมานของข้า”

    โม่ซันซันมองลายเส้นยันต์ที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าอยู่ในถาดทราย ถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่า

    “นี่คือวิธีการคำนวณแบบอนุมานจริงๆ หรือ”

    ศิษย์พี่สี่ตอบ

    “ถ้ามิใช่การคำนวณแบบอนุมาน แล้วเจ้าจะมองจนใจลอยแบบนี้ได้อย่างไร”

    โม่ซันซันกล่าวอย่างแตกตื่นตกใจ

    “แต่ได้ยินอาจารย์บอกว่า ถาดเหอซาน (นทีขุนเขา) และวิธีการคำนวณแบบอนุมานได้ขาดการสืบทอดไปเนิ่นนานแล้ว”

    ศิษย์พี่สี่ส่ายหน้าก่อนอธิบาย

    “จริงอยู่ ถาดเหอซานและวิธีคำนวณแบบอนุมานขาดการสืบทอดไปตั้งแต่ปีแรกของการสถาปนาแคว้นต้าถัง แต่หลังจากนั้นไม่ถึงสี่สิบปี อิ่งซานเหรินปรมาจารย์รุ่นที่เจ็ดของสวนโม่ฉือเจ้าก็ได้ร่วมกับปราชญ์เมธีท่านหนึ่งของสถานศึกษา ศึกษาค้นคว้าเป็นเวลานานถึงหกปี คิดค้นวิธีการคำนวณแบบอนุมานขึ้นมาใหม่ จากนั้นผู้อาวุโสทั้งสองยังได้ใช้พลังฌานที่ฝึกปรือมาทั้งชีวิตหล่อหลอมถาดเหอซานขึ้นใหม่อีกด้วย ในเมื่ออาจารย์ของเจ้าเป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อๆ มาของอิ่งซานเหริน ไฉนจึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้”

    โม่ซันซันมองถาดทรายที่ดูธรรมดาสามัญไม่มีความพิเศษแต่อย่างใดอย่างตกตะลึง คิดในใจ หรือว่านี่ก็คือถาดเหอซานที่เคยได้ยินแต่ในตำนานจริงๆ นางเพ่งมองลายเส้นสองเส้นที่ดูเหมือนจะขนานกันไปชั่วนิรันดร์ แต่อันที่จริงกลับรบกวนขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา ก่อนขมวดคิ้วถามว่า

    “นี่ท่านกำลังอนุมานค่าของเส้นเริ่มต้นระหว่างเจตนารมณ์แห่งยันต์ไม่เคลื่อนย้ายกับการกระเพื่อมไหวของพลังปฐมใช่หรือไม่”

    คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยมองปราดเดียวก็ดูออกถึงเนื้อหาที่ตนกำลังอนุมานอยู่ ศิษย์พี่สี่มีสีหน้าแปลกๆ ถามอย่างสนใจว่า

    “เจ้าก็เคยศึกษาทางด้านนี้มาก่อนหรือ”

    โม่ซันซันเพ่งสมาธิอยู่กับถาดทราย ตอบว่า

    “เคยศึกษามาบ้าง เพียงแต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถอนุมานโดยไม่มีมูลได้”

    ศิษย์พี่สี่มองนางอย่างชื่นชม ชอบใจในความมีสมาธิจดจ่อของนาง มันหันไปสั่งหนิงเชวียเสียงดัง

    “ยังไม่รีบยกม้านั่งมาหนึ่งตัว เจ้าจะให้แม่นางซันซันนั่งยองๆ อยู่อย่างนี้น่ะรึ”

    หนิงเชวียอยู่ดีๆ ก็โดนตำหนิ แต่ก็มิกล้าบ่นว่าแต่อย่างใด ได้แต่รีบไปยกม้านั่งมา

    โม่ซันซันมิได้กล่าวขอบใจหรือเหลือบมองมาทางมันแม้แต่น้อย นางหย่อนก้นลงนั่งเอามือเท้าคางจ้องถาดทรายอย่างใจจดใจจ่อ มีบางครั้งที่เงยหน้าขึ้นหารือกับศิษย์พี่สี่ แต่พอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเสร็จก็ก้มหน้ามองถาดต่อเหมือนเดิม

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook