• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 1

    บทที่ 1 คืนค่ำรางเลือน

     

    (1)

     

    รัชศกหยวนเหอปีที่สิบ (คริสต์ศักราช 815) ปลายเดือนห้า

    คืนพายุฟ้าคำราม ภายในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ทางด้านล่างของเจดีย์หลิงกู่ เมืองฉางอัน

    จย่าชางชายชราอายุร่วมร้อย ผู้อยู่รับใช้จักรพรรดิต้าถังมาถึงหกรัชกาลน้ำตาอาบนองหน้า

    เขานับอักษรสิงซู* ขนาดใหญ่บนผนัง “หนึ่ง สอง สาม…หนึ่งร้อย หนึ่งร้อยหนึ่ง…หนึ่งร้อยห้าสิบเก้า หนึ่งร้อยหกสิบ หนึ่งร้อยหกสิบเอ็ด!”

    ถูกแล้ว ยังคงเป็นหนึ่งร้อยหกสิบเอ็ดตัว ไม่ขาดไม่เกิน เขาแก่จนมองตัวอักษรบนผนังไม่ชัดแล้ว ทำได้เพียงนับตัวอักษรพวกนี้เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เขาใช้ชีวิตปกป้องนั้นยังคงอยู่

    นั่นคือรับสั่งขององค์จักรพรรดิ และเป็นชีวิตของเขาด้วยเช่นกัน

    หลายปีก่อน พระองค์ตรัสกับจย่าชางว่า ‘นับแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าจงอยู่ที่นี่ ห้ามไม่ให้คนนอกเข้ามาภายในห้องนี้ เห็นตัวอักษรเหล่านี้ได้เด็ดขาด และชั่วชีวิตนี้เจ้าไม่ต้องหวังจะทำความเข้าใจในความหมายของพวกมัน หน้าที่ของเจ้ามีเพียงปกปักรักษาพวกมันไว้ เพราะฉะนั้น…ไม่ต้องถามอะไรทั้งสิ้น’

    ตอนทรงมีรับสั่ง พลังอำนาจที่อยู่บนพระพักตร์แลดูหนักแน่นเปี่ยมกำลังแต่ก็แลดูอ่อนโยนอยู่ในที พลังอำนาจที่ว่าเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาในตระกูลหลี่ สายสกุลของเหล่าจักรพรรดินี้สยบผู้คนทั่วหล้าให้ทำตามได้ จย่าชางจึงไม่ได้ถามอะไรออกมาจริงๆ

    นี่เป็นความลับเกี่ยวกับราชวงศ์ถัง จย่าชางไม่อาจและไม่กล้าคิดทำความเข้าใจ เขาทำก็แต่เพียงปกปักรักษามันอย่างเต็มกำลังความสามารถ เฝ้าอ่านมันเงียบๆ ในใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเท่านั้น แต่ในยามนี้ชีวิตเขาเหมือนไม้ใกล้ฝั่งเข้าไปทุกที แม้ไม่อยากเก็บความลับนี้ให้ดับสูญไปกับตัว แต่เขากลับไม่รู้ว่าตนเองควรเอ่ยปากเช่นไร

    “ท่านปู่! ท่านปู่”

    จย่าชางหันเงอะๆ งะๆ กลับไป “ส่านเอ๋อร์?”

    “ข้าจุดเทียนมาให้ ข้างนอกฝนตกหนัก ท่านไม่รู้สึกหรือว่ามันออกจะมืดไปสักหน่อย” หลางส่านเอ๋อร์เดินเข้ามาพร้อมกับเทียนไขเล่มหนึ่ง ในห้องสว่างขึ้นทันใด หลางส่านเอ๋อร์วางเทียนไขลงบนโต๊ะตั้งของเซ่นไหว้ที่อยู่ทางด้านล่างของผนังทางทิศเหนือ พลางมองไปยังกระถางธูปก่อนจะพูดเสียงดัง “ธูปเองก็ดับหมดแล้ว”

    จย่าชางถาม “ข้างนอกฝนตกหรือ”

    “อืม! ฟ้าแลบฟ้าร้อง น่ากลัวจะตาย” หลางส่านเอ๋อร์ชำเลืองตามองจย่าชาง ในใจคิด หูของผู้เฒ่าคงไม่ไหวแล้วแน่ๆ

    จย่าชางยื่นมือเงอะๆ งะๆ ไปหาหลางส่านเอ๋อร์ “ส่านเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า เรื่องนี้สำคัญมาก…”

    “ท่านปู่!” หลางส่านเอ๋อร์ถอยหลังก้าวหนึ่ง ใบหน้าซีดลงเล็กน้อย “ด้านนอกเหมือนมีคนกำลังร้องเรียก ข้าขอตัวไปดูสักครู่ก่อน”

    “ส่านเอ๋อร์ อย่าเพิ่งไป ปู่มีเรื่องสำคัญมากต้องบอกเจ้า…”

    “เอ่อ ได้ งั้นไว้ข้ากลับมาก่อน แล้วพวกเราค่อยมาว่ากันอีกที” หลางส่านเอ๋อร์ลุกลี้ลุกลนจุดธูปในกระถาง ก่อนจะออกจากห้องไปรวดเร็วราวกับกำลังหลีกหนีอะไรบางอย่าง

    หลางส่านเอ๋อร์หลบอยู่หลังม่านหน้าประตู สีหน้าแปลกประหลาด ดวงตาจับจ้องลอบมองไปยังแผ่นหลังของจย่าชาง ร่างของชายชรางองุ้ม ศีรษะขาวโพลนยามนี้ลู่ต่ำกว่าหัวไหล่จนแทบมองไม่เห็น ระยะนี้ชายชรามักเผลอหลับแบบนี้อยู่เป็นประจำ หลางส่านเอ๋อร์รู้สึกได้แจ่มชัดว่ามีมือที่มองไม่เห็นข้างหนึ่งกำลังลากชายชราผู้นี้ไปยังโลกอีกใบ หากวันใดถูกมือที่ว่าลากเข้าไปจริงๆ ถึงตอนนั้นชายชราคงไม่มีโอกาสกลับออกมาได้อีก

    ยิ่งธูปในกระถางส่องสว่างมากขึ้นเท่าใด ใจของหลางส่านเอ๋อร์ก็ยิ่งเต้นเร็วมากขึ้นทุกที “ท่านปู่ ท่านหลับพักผ่อนเถอะ ข้าขอโทษ…”

    ฟ้าร้องครืนคราง ฟ้าแลบแปลบปลาบสาดแสงผ่านบานประตูเข้ามา หลางส่านเอ๋อร์ตกใจเบือนหน้าออกวิ่ง

    หลางส่านเอ๋อร์มองไม่เห็น ภายใต้แสงแปลบปลาบ จู่ๆ จย่าชางก็กระโดดผลุงลุกขึ้นจากเบาะสานราวกับถูกปีศาจร้ายสิงร่าง เขาขยับมือขยับเท้าไปมา ไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังคลุ้มคลั่ง!

    * สิงซู เป็นลายอักษรพู่กันรูปแบบหนึ่ง ลักษณะเป็นลายมือหวัดแกมบรรจง บ้างเล็กบ้างใหญ่ เส้นหนาบางไม่สม่ำเสมอ เส้นแต้มต่อเชื่อม ทำให้เขียนได้เร็ว

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook