• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 6

    เผยเสวียนจิ้งได้แต่เริ่มจากห่วงใยไถ่ถามถึงอาการบาดเจ็บที่เท้าของผู้เป็นอา เส้นเอ็นบาดเจ็บกระดูกเคลื่อนร้อยวัน ท่านอาอายุไม่น้อยแล้ว จำต้องอดทนพักรักษาตัว ไว้หายดีจริงๆ เสียก่อนค่อยกลับไปเคลื่อนไหวเหมือนปกติ จะได้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

    เผยตู้ยิ้มพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก

    การหยั่งเชิงของเผยเสวียนจิ้งล้มเหลวสิ้นท่า นางยังคงไม่อาจรู้ได้ว่าท่านอาจะออกจากคฤหาสน์ไปตอนไหน

     

    ในวันเดียวกัน อัครเสนาบดีอู่หยวนเหิงก็วุ่นวายอยู่ข้างนอกท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าวทั้งวัน จนกระทั่งพลบค่ำถึงได้เดินทางกลับตรอกจิ้งอัน อันเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์อัครเสนาบดี

    เพิ่งเข้าถึงตรอกจิ้งอันได้ไม่ทันไร เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรผิดแผกไปจากเดิม ใต้เงากำแพงมืดมิดอึมครึมเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังขยับเขยื้อน ระหว่างพุ่มไม้หนาทึบคล้ายมีเสียงกรอบแกรบดังลอยออกมา ตอนเขาสั่งให้คนเข้าไปสำรวจตรวจดู ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเงียบสงัดแปลกประหลาด

    ตลอดทั้งคืน อู่หยวนเหิงนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะจวบจนยามสาม* เขายังคงรู้สึกไม่สบายใจ

    เพื่อบังคับใจตนเองให้สงบ เพื่อทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเผยเสวียนจิ้ง และยิ่งเพื่อคลายความรู้สึกงุนงงสงสัยที่พาเขาดำดิ่งอยู่ในปมปริศนาลึกลับซับซ้อน คืนนี้อู่หยวนเหิงเฝ้าทุ่มเทสมาธิทั้งหมดคัดลอก ‘อารัมภกถาหลันถิง’ ของหวังซีจืออยู่ตลอดทั้งคืน แต่ถึงยามนี้เขากลับทำได้เพียงต้องยอมรับว่าตนเองล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

    องค์จักรพรรดิตรัสได้ถูกต้อง ต้นไม้อยากสงบนิ่ง แต่หากสายลมมิหยุดพัด เทพอักษรก็มิอาจทำอะไรได้

    ปลายพู่กันของอู่หยวนเหิงหยุดลงตรงที่…

     

    ยามนี้ท้องฟ้าครามกระจ่างใส สายลมเอื่อยโชยไหวให้สุขสันต์ แหงนหน้าเห็นฟ้ากว้างดั่งอนันต์ ก้มหน้าพบสรรพสิ่งล้วนมากมี ขอเพียงโสตรับรู้ถึงสุนทรีย์ ย่อมสัมผัสถึงสุขีที่แท้จริง’

     

    ตำแหน่งที่น้ำหมึกไปถึงคือท่อนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกปีติยินดีที่สหายเก่าได้มาร่วมอยู่พร้อมหน้า แต่หลังจากนั้นปลายพู่กันของหวังซีจือก็หันเหเปลี่ยนทิศ กลับไปทอดถอนใจกับชีวิตมนุษย์ที่ไม่เที่ยงแท้ วันเวลาไร้ความปรานี แต่อู่หยวนเหิงกลับไม่ปรารถนาจะเขียนต่อไปถึงท่อนดังกล่าว

    เขาคัดลอกเพียง ‘อารัมภกถาหลันถิง’ ครึ่งท่อนเท่านั้น

    อู่หยวนเหิงถอนหายใจยาวๆ คงต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้ก่อน

    แต่ใจเขากลับไม่อาจสงบ ลางสังหรณ์อัปมงคลประหนึ่งความมืดลึกล้ำ กดทับเสียจนเขาหายใจไม่ออก อู่หยวนเหิงยื่นมือหยิบกระดาษขาวมาแผ่นหนึ่ง เขียนไปเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย ครั้นมองดูอีกครั้ง เขาก็พบว่าตนได้ร่ายกวีบทใหม่ออกมาบทหนึ่ง

     

    * ยามสามหรือยามจื่อ หมายถึงเวลา 23.00 น. ถึง 01.00 น.

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook