• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 3 บทที่ 2

    เยียนเหิงแกว่งคมกระบี่ แสดงกระบี่เพลิงวายุแปดกระบวนที่เคยสอนถงจิ้งออกมาติดต่อกันในเวลาเพียงชั่วสองลมหายใจ ตั้งแต่ท่าที่หนึ่งครึ่งปิดกั้น ไปจนถึงท่าที่แปดอสรพิษรัดกิ่ง ท่ากระบี่ของมันดั่งเมฆเคลื่อนธาราไหลปราศจากการหยุดชะงัก

    “อย่าคิดว่าเจ้ามีพื้นฐานการใช้กระบี่มาบ้างแล้วจะเรียนได้เร็วขึ้น วิชายุทธ์สวยงามที่เจ้าเคยเรียนเหล่านั้น บ่มเพาะความเคยชินอันผิดเพี้ยนมากมาย ข้ายังต้องใช้เวลาอีกมากในการแก้ไขเจ้า” เยียนเหิงกล่าวพลางเก็บกระบี่

    ถงจิ้งเห็นฝีมือนี้ของเยียนเหิง ในใจมิอาจไม่ยอมรับ แต่ถูกเด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันว่ากล่าวเช่นนี้ก็ยากที่จะกล้ำกลืนฝืนทน

    วันนั้นที่เฉิงตูนางเห็นเยียนเหิงสู้เพียงลำพังกับพรรคหม่าไผกับตา ถงจิ้งเกิดความเคารพเลื่อมใสจอมยุทธ์น้อยสำนักชิงเฉิงคนนี้อย่างแท้จริง แต่ในช่วงเวลาร่วมทางฝึกยุทธ์นี้ นางรู้สึกว่าที่แท้วรยุทธ์ของจิงเลี่ยเหนือกว่าเยียนเหิง อีกทั้งทุกครั้งที่เห็นจิงเลี่ยฝึกยุทธ์ด้วยกระบวนท่าประหลาดออกมาบ่อยๆ ก็เป็นความสนุกอันแปลกใหม่ ความเลื่อมใสของนางจึงล้วนบ่ายเบี่ยงไปยังจิงเลี่ย

    ถงจิ้งมองออกไปจากไกลๆ อีกด้านหนึ่งของหาดหิน จิงเลี่ยและหู่หลิงหลันกำลังใช้ดาบไม้ยาวฟาดฟันและต้านรับซึ่งกันและกันอย่างดุเดือด เสียงปะทะของมันแม้อยู่ไกลก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำมีพลังอย่างชัดเจน กะลาสีที่รับหน้าที่ค้ำเรือเล็กก็ต่างอดมิได้ที่จะชื่นชมอยู่ด้านข้างอย่างประหลาดใจ

    เห็นท่วงท่าเคลื่อนไหวของคนทั้งสองเร็วขึ้นเรื่อยๆ โจมตีและป้องกันรอบคอบจนเหมือนซ้อมแสดงไว้ล่วงหน้า รูปแบบกระบวนท่ายังมีจุดที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย แม้พวกมันจะเหมือนประลองกัน แต่ก็คล้ายกำลังหยอกล้อกันเล่นอยู่

    ถงจิ้งมองอย่างชื่นชมเล็กน้อย ปากกล่าวพึมพำ “เพราะเหตุใดมิใช่พี่จิงสอนข้า พี่จิงแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก หากพี่จิงสอนข้า ข้าต้องเรียนได้ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน”

    เยียนเหิงเดิมทีก็ไม่อยากสอนถงจิ้งนัก เพราะรู้สึกว่าขัดขวางการฝึกกระบี่ของตนเอง พอได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งบันดาลโทสะ

    “เจ้าชอบมันก็ไปหามันสิ! ข้าก็ขี้เกียจสอนเจ้าอีก!” เยียนเหิงกล่าวพลางหมุนตัวเดินจากไป

    ‘เจ้าชอบมัน’ ประโยคนั้นของมัน เดิมทีหมายความว่าถ้าอยากเรียนกับจิงเลี่ยก็ไปเรียนกับจิงเลี่ย แต่ในความเข้าใจของถงจิ้งกลับทำให้ใบหน้ากลมของนางแดงขึ้นจนต้องลดสายตาลงอย่างเขินอาย เคราะห์ดีเยียนเหิงเดินไปแล้ว มิได้มองเห็น

    เยียนเหิงเดินไปยังริมน้ำ มือซ้ายชักกระบี่สั้นเจ้าพยัคฆ์ออกมาจากฝักตรงบั้นเอว หมุนเป็นวงหนึ่งรอบค่อยเริ่มร่ายรำ

    เดิมทีจิงเลี่ยคัดค้านที่มันฝึกกระบี่คู่เร็วเพียงนี้ แต่หลังจากฟังถงจิ้งพรรณนาเหตุการณ์ที่เยียนเหิงแผลงฤทธิ์ขณะอยู่พรรคหม่าไผ วันถัดมามันก็เป็นฝ่ายเริ่มสอนวิชาการใช้อาวุธคู่ให้แก่เยียนเหิง

    ‘บางที เจ้าอาจมีพรสวรรค์ทางด้านนี้’ จิงเลี่ยกล่าวเช่นนี้

    การจะใช้กระบี่คู่ ก้าวแรกย่อมเป็นการเสริมพลังกระบี่มือซ้าย สามเดือนกว่ามานี้มือซ้ายของมันก็ฝึกใช้เจ้าพยัคฆ์ที่เล็กสั้นแต่ทั้งหนาทั้งหนักนี้ไม่หยุด ฝึกกระบวนท่ากระบี่พื้นฐานทุกท่าซ้ำอีก บางคราวถึงขั้นฝึกขณะหลับฝันยามค่ำคืน

    ได้ยินเสียงแหวกฝ่าอากาศของคมกระบี่เจ้าพยัคฆ์กรีดแหลมขึ้นเรื่อยๆ ตามการฝึกฝนทุกวัน มันก็รู้ว่ามาตรฐานของกระบี่มือซ้ายนี้เริ่มเข้าขั้นแล้ว เพียงฟันแทงคมกระบี่ให้ถูกต้องและทะลุทะลวง เสียงแหวกฝ่าอากาศจึงจะแหลมขึ้น ในใจเยียนเหิงตื่นเต้นไม่หยุด ขั้นต่อไปก็เริ่มศึกษาค้นคว้าวิชาสอดประสานกันของกระบี่ซ้ายขวาได้แล้ว

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook