• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 3 บทที่ 3

    หน้าที่แล้ว1 of 6

    บทที่สาม หอเจี้ยนซิ่ง

     

    ยอดเขาซีเยวี่ยบนเขาฮว่าซาน ทางใต้ของอำเภอฮว่าอินในมณฑลส่านซี

    ฮว่าซานมีชื่อเรื่องความสูงชัน ทุกแห่งล้วนเป็นหน้าผาสูงลิ่ว นับแต่โบราณก็มีสมญาว่า ‘ภูเขาอันตรายอันดับหนึ่งในใต้หล้า’ ยอดเขาซีเยวี่ยคือยอดเขาหลักแห่งหนึ่งในนั้น รูปลักษณ์ดั่งหินยักษ์สูงพันจั้งทั้งก้อน เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีลักษณะแข็งแกร่งสูงล้ำตระหง่าน มีสมญาว่า ‘เขาดอกบัว’

    ภายใต้เงามืดทะมึนของยอดเขาซีเยวี่ย ในป่าของเชิงเขาด้านตะวันออกมีเรือนไม้เรียบง่ายงามสง่าหลังหนึ่งพื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่ง ตั้งอยู่ข้างลำธารเล็กๆ อันใสสะอาด ต้นไม้ด้านข้างผูกม้าเอาไว้หลายตัว พวกมันก้มหัวกินหญ้าอย่างเบื่อหน่าย มองจากภายนอกสภาพแวดล้อมล้วนสวยงามและเงียบสงัด คล้ายเป็นอาศรมของผู้ออกบวชบำเพ็ญ

    แต่ว่าในเรือนไม้นี้กลับมีเสียงตวาดดังลั่นของการต่อสู้ออกมาติดกันเป็นช่วงๆ

    “ย้าก!” เสียงตวาดดังขึ้นอีกหนึ่งเสียง

    กระบี่ไม้เล่มหนึ่งร่วงลงบนพื้นไม้กระดาน ชายหนุ่มสูงล่ำที่กุมกระบี่อยู่แต่เดิมผู้นั้นหงายหลัง มือซ้ายป้องอกขวาที่ถูกโจมตี นิ้วมือจับเสื้อของตนเองไว้แน่น เครื่องหน้าขมวดเป็นก้อน หน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ออกแรงหายใจอย่างเร่งกระชั้น เห็นได้ชัดว่าหายใจลำบาก

    ผู้ที่ยืนตรงข้ามมันคือนักพรตวัยกลางคนรูปหนึ่ง ศีรษะสวมหมวกฮุ่นหยวน* แต่กลับมิได้อยู่ในชุดถือพรต สวมเพียงชุดเสื้อกางเกงอย่างนักบวช มันลดกระบี่ไม้หยาบในมือขวาลง ปลายกระบี่ไม้นั้นห่อคลุมไว้ด้วยหนังฟอกอ่อน บนตัวกระบี่ล้วนเป็นรอยยุบผสมปนเป มองออกว่าเป็นอาวุธที่ใช้ประจำในการประลองเช้าค่ำ นักพรตผู้นั้นหน้าตาเด็ดเดี่ยว สีผิวเข้มคล้ำ ก้มมองผู้ที่นอนอยู่บนพื้นคนนั้นโดยไม่แสดงสีหน้า

    มันส่ายหัว แกว่งกระบี่ไม้เล็กน้อย นักพรตหนุ่มสองรูปรีบเข้ามาหามชายหนุ่มที่ถูกโจมตีจนล้มผู้นั้นไปด้านหนึ่งของเรือนไม้

    “คนต่อไป!” นักพรตใช้สุ้มเสียงแหบห้าวร้องเรียก

    ข้างประตูเรือนไม้ คนกลุ่มใหญ่เรียงแถวอยู่ คนหนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ มันยกมือขึ้นอย่างขลาดกลัวเล็กน้อย ทันใดนั้นนักพรตเยาว์วัยรูปหนึ่งได้นำกระบี่ไม้ที่เพิ่งตกพื้นเล่มนั้นมอบให้ใส่มือมัน ชายหนุ่มผู้นี้ยังมิทันเดินไปกลางลาน เสื้อผ้าตรงแผ่นหลังก็เปียกแล้ว

    เรือนไม้หลังนี้นามว่า ‘หอเจี้ยนซิ่ง’ เป็นของสำนักฮว่าซาน

    นับแต่โบราณภาษิตยุทธ์กล่าวว่า ‘มวยเกิดแต่เส้าหลิน กระบี่กลับสู่ฮว่าซาน’

    สำนักฮว่าซานจัดเป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่แห่งยุค นับตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิน ศิษย์ของเจ้านิกายเฉวียนเจิน* ปรมาจารย์หวังฉงหยาง นามว่าห่าวต้าทงฉายาก่วงหนิงจื่อก็ได้เริ่มสร้างสำนักแห่งนี้และใช้วิชากระบี่เต๋าครอบครองยุทธภพ จนบัดนี้ผ่านมาสามร้อยกว่าปีแล้ว ยอดวิชาค่ายกลกระบี่และเพลงกระบี่ที่คิดค้นรวมทั้งหมดสี่สิบแปดวิชา ฐานะเท่าเทียมกับ ‘เจ็ดสิบสองเคล็ดวิชา’ แห่งสำนักเส้าหลิน ซึ่งต่างเป็นตัวแทนของวิทยายุทธ์เต๋าและพุทธ กระทั่งร้อยปีมานี้ สำนักอู่ตังรุ่งเรือง ชื่อเสียงวรยุทธ์ของสำนักฮว่าซานกลับค่อยๆ ถูกลืมเลือน แต่ยังคงไม่เสียความเป็นสำนักกระบี่ใหญ่ที่สืบประวัติยาวนานหยั่งรากแผ่ลึกไปไกล มีสมญาว่า ‘ต้นสายกระบี่’

    หน้าที่แล้ว1 of 6

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook