• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 3 บทที่ 3

    ‘สวัสติกะ’ ด้ามกระบี่และฝักกระบี่ทุกตำแหน่งล้วนเลี่ยมด้วยเงินสลักเป็นลายเมฆ รูปแบบโบราณเรียบง่ายอย่างมาก มองดูโดยละเอียดฝักกระบี่นั้นหาได้เหยียดตรง แต่คดโค้งเล็กน้อยดูคล้ายเหมือนเป็นดาบอีกด้วย

    หวังซื่อซินกวาดมองคนในหอเจี้ยนซิ่งแวบหนึ่ง ทุกคนก็มองดูอาคันตุกะชุดขาวผู้นี้อยู่เช่นกัน ทั้งหมดเผยแววตาเฉกเช่นเดียวกับหวังซื่อซินออกมา บรรยากาศในหอประหนึ่งเยือกแข็ง

    มิมีผู้ใดไม่มองการปรากฏกายของคนผู้นี้

    หวังซื่อซินที่เดิมทีกำลังจะผละไป ตัดสินใจรั้งตนเองไว้

    แม้มันยังไม่รู้ว่าบุรุษผู้นี้มาทำอะไรก็ตาม

    นักพรตน้อยของสำนักฮว่าซานรูปหนึ่ง มือทั้งสองต่างถือผ้าสีขาวและสีแดงอยู่ เดินไปเบื้องหน้าคนผู้นั้นให้มันเลือก แต่ว่าคนผู้นั้นมิได้มองสักแวบโดยสิ้นเชิง

    เฉินไท่ขุยกุมกระบี่ไม้ไว้แน่น เดิมทีมันนิสัยกล้าหาญรักการต่อสู้ อยู่บนเขาต่อให้ประกระบี่กับศิษย์พี่หรืออาจารย์มากมายที่สูงล้ำกว่าตนเองก็ไม่เคยเคร่งเครียดแม้แต่น้อย ตอนนี้มันกลับรู้สึกผิดปกติในใจ

    “เจ้ามาทำอะไร” เฉินไท่ขุยตะโกน “มาทดสอบ? หรือว่าขอคำชี้แนะ?”

    สุ้มเสียงของมันยังคงเข้มงวด แต่ต่างจากเสียงตะโกนอันหนักแน่นเมื่อครู่ ครั้งนี้เหมือนเป็นการตะโกนต่อต้านการถูกกดดันรางๆ

    บุรุษไม่ตอบคำ เครื่องหน้าของมันสะสวยอย่างยิ่ง นัยน์ตาเรียวยาวมากอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากบางพอประมาณเม้มเอาไว้ สีผิวขาวใส แต่มิได้ชวนให้รู้สึกไม่แข็งแรงสักนิด กลับชวนให้เข้าใจผิดว่าเหมือนกำลังเปล่งแสง

    คนทั้งหมดล้วนกำลังจ้องมองใบหน้าที่ชวนให้รู้สึกละอายใจเล็กน้อยนี้อยู่

    ครั้นแล้วมันเอ่ยปาก

    “อารามเจิ้นเยวี่ยแห่งสำนักฮว่าซานขึ้นทางยอดประจิมนี้กระมัง?” เสียงกล่าวของมันแต่ละคำแต่ละประโยคชัดเจนอย่างยิ่ง จังหวะไม่ช้าไม่เร็ว “ขึ้นไปจากทางนี้ใช่ไหม”

    เฉินไท่ขุยฉีกยิ้ม อย่างน้อยก็รู้เจตนาของฝ่ายตรงข้ามแล้ว

    “เจ้ากล่าวผิดแล้ว” เฉินไท่ขุยสะบัดกระบี่ไม้ในมือ “มิใช่ขึ้นไป ‘จาก’ ที่นี่ เป็นต้อง ‘ผ่าน’ ที่นี่ขึ้นไป” มันกล่าวแต่ละคำอย่างหนักแน่น

    บุรุษผู้นั้นมองดูซ้ายขวาในหอเจี้ยนซิ่ง มองเห็นกระบี่ไม้บนผนังห้อยอยู่แถวหนึ่ง ยังมีคนหนุ่มที่กำลังหมุนเวียนรอคอยการประลองกลุ่มนั้น คิ้วทั้งสองของมันเลิกขึ้นพอประมาณ แสดงออกว่ากระจ่างแจ้งโดยพลัน คล้ายว่าถึงบัดนี้เพิ่งรู้ว่าหอเจี้ยนซิ่งนี้คือสถานที่ที่ใช้ทำอะไร

    “อย่ามัวเสียเวลา” บุรุษคล้ายกล่าวอย่างใจลอย “ขอเพียงพาข้าขึ้นไปก็พอแล้ว”

    ‘อย่ามัวเสียเวลา’ ประโยคนั้น เฉกเช่นเดียวกับที่เฉินไท่ขุยเพิ่งพูดกับหวังซื่อซิน มันรู้สึกเหมือนถูกล้อเลียน

    เฉินไท่ขุยยื่นกระบี่ชี้ตรงหาบุรุษ

    “ผ่านข้าไปได้ ย่อมพาเจ้าขึ้นไป”

    ลั่วไท่ฉีที่นั่งขัดสมาธิอยู่หลังมันไม่มีรอยยิ้มสบายใจเช่นปกติแล้ว ตาทั้งสองแวบประกายดุดันออกมา จ้องเขม็งที่อาคันตุกะมิได้รับเชิญผู้นี้

    มิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน…

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook