• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 3 บทที่ 3

    ถูกโจมตีจนล้มลงมิใช่ปัญหา การโดนฟาดฟันย่อมเป็นเรื่องที่แน่นอน หาไม่ ไยต้องมาร่ำเรียน แต่หากกระทั่งความกล้าที่จะถูกโจมตีจนล้มลงก็ไม่มี นั่นมิเพียงไร้คุณสมบัติที่จะฝึกเพลงกระบี่ฮว่าซาน แม้แต่คุณสมบัติที่จะเหยียบที่แห่งนี้ก็ไม่มี!

    หอเจี้ยนซิ่ง ชื่อนี้มิได้ตั้งผิด นี่คือสถานที่อันสามารถมองเห็นธาตุแท้* ของผู้มาเยือน

    ชายหนุ่มขี้ขลาดผู้นั้นชื่อว่าหวังซื่อซิน ชาวอำเภอเหอหยาง เป็นเพียงลูกหลานชาวนาธรรมดาคนหนึ่ง แต่กลับไม่เข้าร่องเข้ารอยตั้งแต่เด็ก มันเป็นเช่นเดียวกับคนหนุ่มมากมายที่มาหอเจี้ยนซิ่ง เชื่อมั่นว่าตนเองเกิดมามิใช่เพื่อทำนา แต่เพื่อถือกระบี่ มันไม่สนใจคำคัดค้านของคนในบ้าน เรียนวิชากับอาจารย์ต่อสู้ในชนบท ซ้ำยังฝึกฝนตนเองอย่างหนักทุกเช้าค่ำอยู่สองปี รู้สึกว่าเตรียมตัวได้พอสมควรแล้วจึงตัดสินใจมาเข้าร่วมสำนักกระบี่ฮว่าซานอันยิ่งใหญ่ เดิมทีมันชื่อว่าหวังซื่อหนิว ทว่า ‘ซื่อซิน (หัวใจนักรบ)’ ชื่อนี้มันเป็นผู้ตั้งเอง มันคิดว่าชื่อนี้ต่างหากที่เข้ากันกับมือกระบี่คนหนึ่ง

    แต่ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นชายฉกรรจ์ที่โตกว่ามัน ล่ำสันกว่ามัน และเร็วยิ่งกว่ามันผู้นั้น แค่สองกระบวนก็ถูกกระบี่ไม้ของเฉินไท่ขุยแทงจนล้มอย่างรุนแรง ความเชื่อมั่นของหวังซื่อซินก็พังทลายโดยสิ้นเชิง ในโลกของการใช้กระบี่ที่แท้จริงตัวมันกระจ้อยร่อยเพียงนี้ ที่แท้ในหลายปีมานี้มันล้วนกำลังสร้างความฝันไร้แก่นสารอันหนึ่งอยู่

    บัดนี้ หากหวังซื่อซินเหยียบออกประตูของหอเจี้ยนซิ่ง ความฝันนี้ก็จะตื่นขึ้น

    มันนึกถึงคำด่าว่าประโยคนั้นของบิดาตอนมันออกจากบ้าน

    ‘เจ้าโง่ ไม่ได้นะ!’

    เพียงไม่กี่คำนั้นเหมือนหมัดหนึ่งหมัดชกใส่อกมัน

    มันเริ่มเสียใจสุดซึ้ง เพราะเหตุใดเมื่อครู่ต้องเกรงกลัวเช่นนั้น ความเจ็บของกระบี่ไม้ที่แทงใส่ร่างเทียบได้กับความเจ็บตอนนี้หรือ ขณะมอบกระบี่ไม้คืนนักพรตน้อย ปล่อยวางว่าทุกอย่างล้วนจบสิ้นแล้ว มันพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว คำว่า ‘ไม่ได้นะ’ ของบิดาผลักตัวมันในอดีตทิ้งไป แต่ว่าตอนนี้เสียใจไปก็ไม่ทันแล้ว ไม่มีโอกาสครั้งที่สอง ทำได้เพียงละทิ้งกระบี่ กลับบ้านถือจอบเสียม…

    ขณะที่หวังซื่อซินเดินไปยังประตูหอเจี้ยนซิ่ง มีคนผู้หนึ่งมาถึงหน้าประตูจากด้านนอก สบตากับมันหนึ่งหน

    หวังซื่อซินในตอนนั้นจนถึงภายหลังล้วนไม่มีทางอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใดเพียงแวบหนึ่งนี้จึงรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ฝีเท้ามันที่กำลังจะก้าวออกจากประตูหยุดลงชั่วขณะ

    คนผู้นั้นกลับมิได้หยุดลง ยังคงเดินเข้าไปข้างใน ราวกับร่างของหวังซื่อซินหาได้อยู่ในสายตาของมันไม่

    หวังซื่อซินเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงอย่างรีบร้อน หัวไหล่ข้างหนึ่งเกือบจะปะทะ แต่มิได้ปะทะ

    หวังซื่อซินที่เดิมทีเฉียดจะชนกับฝ่ายตรงข้าม กลับเพียงโซเซเล็กน้อย มันมองไม่เห็นว่าคนผู้นั้นมีท่าทางหลบเลี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น เห็นเพียงอีกฝ่ายยังคงเดินตรงเข้าประตูแห่งหอเจี้ยนซิ่ง

    ชั่วขณะนั้น หวังซื่อซินรู้สึกว่าผู้ที่ผ่านข้างกายไม่เหมือนเป็นมนุษย์ แต่เป็นแมวตัวหนึ่ง

    หวังซื่อซินถูกดึงดูดจนหันหลัง ตอนนี้มันเห็นเพียงเงาหลังของคนผู้นั้น ร่างกายที่สวมชุดคลุมสีขาวล้วนเห็นได้ชัดว่าเพรียวสูง แต่กลับไม่นับว่าใหญ่โตมากนัก เส้นผมยาวตรงดำแวววาว มิได้ถักเปีย เพียงใช้แถบผ้าดำมัดห้อยอยู่ด้านหลังอย่างเรียบง่าย บนแผ่นหลังสะพายเฉียงกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง หัวด้ามมีห่วงกลม โกร่งกระบี่เป็นรูป

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook