• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ บทที่ 1

    สองร้อยคนนอกศาลากระซิบกระซาบกัน มีบางคนหันมองภูเขาแสนไกลลูกนั้นตลอดเวลา ขณะมอง บนหน้ามีความรู้สึกเลื่อมใสชนิดหนึ่ง

    กล่าวถึงคนในเขาเหล่านั้น พวกมันเป็นเหมือนตำนานที่ยังคงอยู่

    หมาปาร้อนรนใจ มันหันหน้ามองเฉินดาบปีศาจพลางกระซิบ “ท่านเฉิน ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร ครั้งนี้ข้าแค่อยากกอบกู้หน้าตา ท่านเองก็แค่แสวงลาภ ไม่คุ้มที่จะ…”

    เฉินดาบปีศาจกัดริมฝีปากล่าง มือซ้ายกุมฝักดาบตรงข้างเอวไว้แน่นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว มันมิได้กล่าวความใดๆ ออกมา

    หมาปาเองก็มิได้เอ่ยคำ ผู้เฒ่าจวงที่ร้อนตัวอยู่แล้วย่อมมิได้พูดจาอีก ผู้ตรวจการโจวแม้ไม่กล้าตัดสินแน่ชัดว่าคำพูดผู้เฒ่าจวงเป็นจริงหรือเท็จ แต่พอได้ยินคำว่าคนในเขา ก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่มีพื้นที่ให้ตนได้ไกล่เกลี่ยอีก…

    สถานการณ์ในศาลายืดเยื้ออย่างเงียบๆ อยู่เช่นนี้ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าควรรอจนถึงเมื่อไหร่ สภาพการณ์เปลี่ยนไปจนแปลกประหลาดอย่างยิ่ง

    ฝนตกลงบนหลังคาหญ้าฟางไม่ขาดสาย

    นานพักใหญ่

    ในกลุ่มคนด้านนอกศาลาพลันมีคนร้องเสียงดัง “เอ๊ะ!”

    คนทั้งหมดมองไปยังทิศทางของเสียงนั้น เป็นหนึ่งในชายฉกรรจ์ที่สวมหมวกจูเก่อ มันยื่นนิ้วชี้ออกไป กลุ่มคนมองทอดไปยังทิศทางของนิ้วมือนั้น

    “มาแล้ว…จริงๆ…”

    ผู้เฒ่าจวงและหมาปาดีดตัวขึ้นมาเหมือนกับก้นถูกไฟเผาพร้อมกัน เดินไปหน้าศาลาหมายจะมองให้ชัดเจน

    บนทางห่างไกล เงาดำจุดเล็กๆ สองจุดตากฝนใกล้เข้ามาด้านนี้อย่างช้าๆ

    ผู้เฒ่าจวงเช็ดน้ำฝนบนเปลือกตาอย่างตื่นเต้น ส่วนหมาปายืนตะลึงงันด้วยสีหน้าซีดเผือด

    ดวงตาสองร้อยกว่าคู่มองดูเงาร่างทั้งสองที่ยิ่งเดินยิ่งใกล้เข้ามานั่น

    ในที่สุดก็มาถึงพื้นที่ว่างด้านหน้าศาลา ผู้มาทั้งสองคนคลุมไว้ด้วยชุดฟาง บนศีรษะสวมหมวกไผ่สานใบใหญ่สีดำสนิท มองไม่เห็นหน้าตา

    บนพื้นที่ว่าง คนสองร้อยเหล่านั้นเหมือนถูกพลังไร้รูปชนิดหนึ่งแบ่งแยกออกจากกึ่งกลาง แยกออกเป็นทางเดินกว้างขวางเส้นหนึ่ง

    ยามเดินฝ่าผ่านเหล่าชายฉกรรจ์ที่ถือของมีคม ทั้งหมดก็เก็บอาวุธไว้ด้านหลังโดยไม่รู้ตัว

    คนทั้งสองเดินเข้าไปในศาลาอู่หลี่ ถอดหมวกไผ่สานและชุดฟางโดยไม่พูดไม่จา เผยให้เห็นชุดคลุมสีคราม รูปแบบนั้นเหมือนชุดคลุมของนักพรตเล็กน้อย แต่ตรงข้อมือพันด้วยแถบผ้ามัดแขนเสื้อเอาไว้ ตรงอกซ้ายของชุดคลุมสีครามมีเส้นด้ายสีดำปักอักษรโบราณคำว่า ‘ชิง’ ข้างเอวห้อยวัตถุขนาดยาวชิ้นหนึ่ง ใช้ถุงผ้าห่อเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อป้องกันน้ำฝน

    ผู้เฒ่าจวงตื้นตันจนเกือบร่ำไห้ออกมา

    มาแล้วมาแล้วจริงๆ ด้วย

    มันสั่งการผู้ติดตาม รับหมวกไผ่สานและชุดฟางของคนทั้งสองมา พร้อมทั้งยกเก้าอี้ไม้ไผ่มาสองตัว

    บุรุษชุดคลุมครามสองคนกลับไม่นั่งลง พวกมันดึงเชือกรัดเส้นหนึ่งที่ข้างเอว ถุงผ้าที่ห่อวัตถุยาวนั่นคลายออกมา เผยให้เห็นกระบี่ไม่ผิดแผกแตกต่างกันสองเล่ม กระบี่เหล็กกล้าทั้งสองกระทบกันจนเกิดแสงสะท้อนเปล่งประกาย

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook