• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ บทที่ 2

    หน้าที่แล้ว1 of 6

    สามารถอ่านตอนก่อนหน้าได้ที่ >> บทที่ 1

     

    บทที่สอง สำนักกระบี่ชิงเฉิง

     

    บนทางลาดชันกลับเขาชิงเฉิง เยียนเสี่ยวลิ่วเดินตามหลังศิษย์พี่จางเผิงอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ

    สายฝนหนาวเหน็บเบาบางลงแล้ว คนทั้งสองเดินต่อไป

    จางเผิงเหลือบมองข้ามไหล่ เห็นบนบ่าของเยียนเสี่ยวลิ่วมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสายก็ยิ้มน้อยๆ ไม่เอ่ยคำ มันเข้าใจ

    ห้าปีก่อน มันติดตามศิษย์พี่ใหญ่ไปประลองกระบี่กับโจรภูเขา หลังจากนั้นก็โลหิตเดือดพล่านเช่นนี้ ควบคุมตัวเองมิได้อยู่นาน เพราะเป็นครั้งแรกที่มันได้ลงเขาและประมือกับบุคคลภายนอก ต่อมาพบว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าคนทั่วไปอยู่มาก กล่าวได้ว่านี่คือสภาวะฮึกเหิมที่มิอาจข่มกลั้นชนิดหนึ่ง

    พอเดินไปถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง จางเผิงก็หยุดลงที่ใต้ต้นไม้ มันถอดหมวกไผ่สานออก ปลดกระบอกไม้ไผ่บรรจุน้ำสะอาดที่พกไว้ตรงข้างเอวมอบให้เยียนเสี่ยวลิ่ว

    อารมณ์ของเยียนเสี่ยวลิ่วยังไม่ผ่อนคลาย ยามนี้คอแห้งโดยแท้จริง มันรับกระบอกไม้ไผ่ของศิษย์พี่มาดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่หลายอึก

    จางเผิงสังเกตอารมณ์ของศิษย์น้อง บนใบหน้าจริงใจที่มีความตื่นเต้นและเคร่งเครียดนั่นกลับมีความสงสัยอยู่ด้วย

    “เสี่ยวลิ่ว เจ้ามีเรื่องอยากถามใช่ไหม” จางเผิงหยิบกระบอกไม้ไผ่กลับคืน แล้วดื่มน้ำเข้าไปอึกหนึ่ง

    เยียนเสี่ยวลิ่วก้มศีรษะมองดูรากต้นไม้บนพื้นอย่างนิ่งเงียบ

    “เจ้าถามมาได้เลย” จางเผิงกล่าวซ้ำ “ข้าจะไม่บอกอาจารย์”

    เยียนเสี่ยวลิ่วไตร่ตรองอยู่อีกครู่หนึ่งจึงรวบรวมความกล้า “ศิษย์พี่…มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ…ตาเฒ่าแซ่จวงนั่นมิใช่คนดีอะไร เหตุใดพวกเรา…”

    “เจ้าอยากถามว่า ‘เหตุใดพวกเราต้องช่วยมัน’ ใช่หรือไม่”

    เยียนเสี่ยวลิ่วพยักหน้า

    “เจ้ามองเห็นคนกลุ่มใหญ่หน้าศาลาอู่หลี่นั่นไหม พวกมันเกือบจะเปิดฉากต่อสู้กันแล้ว หากครั้งนี้มีการต่อสู้กัน เจ้าลองเดาว่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตายเท่าไหร่ จะผูกพยาบาทอีกเท่าไหร่ ต่อไปจะต่อสู้กันอีกกี่หน บัดนี้เป็นเพราะพวกเรา การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่เกิด คนจำนวนมากก็ไม่ต้องบาดเจ็บล้มตาย นี่มิใช่เรื่องดีหรอกหรือ ความจริงอาจารย์ไม่กังวลว่าควรช่วยฝ่ายใด เพียงแต่คนที่ขึ้นเขามาขอร้องพวกเราคือคนแซ่จวงนั่นเท่านั้นเอง”

    จางเผิงตบบ่าของศิษย์น้อง กล่าวอีก “กระบี่เดียวของเจ้าได้ช่วยคนจำนวนมากพวกนั้นเอาไว้ ยังมีคนในครอบครัวของพวกมันแต่ละคน นี่แหละคือการผดุงคุณธรรม ขอเพียงเห็นถึงผลลัพธ์ก็พอแล้ว เรื่องราวที่เหลืออื่นๆ ไม่ต้องคิดมากอีก”

    เยียนเสี่ยวลิ่วพยักหน้า จากนั้นจึงตามจางเผิงเดินทางต่อ

    แต่ระหว่างทางมันยังคงครุ่นคิดถึงคำพูดของศิษย์พี่ไม่หยุด จากนั้นก็นึกถึงเฉินดาบปีศาจขึ้นมา

    พวกเราทำเช่นนี้ ที่แท้ต่างจากเฉินดาบปีศาจหรือไม่

    ทว่าโลกภายนอกที่ซับซ้อนมิใช่เรื่องที่เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีผู้ฝึกกระบี่อยู่ในหุบเขาลึกนานหลายปี ไม่เคยเหยียบย่างสู่ยุทธภพจะสามารถเข้าใจได้โดยง่าย

    ฉะนั้นตอนที่มาถึงประตูทางเข้าเขา เยียนเสี่ยวลิ่วจึงยังคงมิได้คำตอบ

    หน้าที่แล้ว1 of 6

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook