• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ บทที่ 3 และบทที่ 4

    “เสี่ยวอิง เจ้ามาได้อย่างไร” ซ่งหลียิ้มพลางกล่าว “เจ้ามีเคราะห์แน่! ตอนนี้เป็นคาบเช้า เจ้าไม่ฝึกกระบี่แล้วยังเดินออกมา ข้าจะไปบอกท่านพี่ ดูว่าท่านพี่จะลงโทษเจ้าอย่างไร”

    “จะลงโทษอย่างไรได้อีก” โหวอิงจื้อยิ้มน้อยๆ “จะให้ข้าไปหาบน้ำสักกี่วันข้าก็ไม่กลัวหรอก”

    เห็นสหายสนิทเผยรอยยิ้ม เยียนเหิงถอนหายใจ ในใจอบอุ่นขึ้นวูบหนึ่ง

    “ข้ามายินดีกับเจ้า” โหวอิงจื้อเดินไปยังเบื้องหน้าเยียนเหิง จับไหล่ของมันไว้พลางกล่าว

    “เสี่ยวลิ่ว เป็นความจริงหรือ” ซ่งหลีเองก็วิ่งเข้ามาใกล้ “อาจารย์ลุงเจ้าสำนักเปลี่ยนชื่อให้เจ้าแล้ว?”

    “อืม” เยียนเหิงพยักหน้า

    “เยียนเหิง…ไม่ไพเราะ” ซ่งหลีเบ้ปาก “ข้าชอบเรียกเจ้าว่าเสี่ยวลิ่วมากกว่า”

    “เสี่ยวหลี ข้ามีเรื่องจะพูดกับเยียนเหิง” โหวอิงจื้อกล่าว “เจ้าไปด้านโน้นก่อน ประเดี๋ยวเราค่อยไปหาเจ้า”

    “ทำไมกัน ข้าฟังมิได้หรือ”

    “ข้าบอกให้เจ้าไปก็ไปสิ” โหวอิงจื้อสีหน้าหงุดหงิด

    ซ่งหลีทำแก้มป่อง แต่ก็ต่อต้านมิได้ เดินไปยังเนินเขาด้านโน้นเพียงลำพัง นางคือไข่มุกในอุ้งมือ* ของอาจารย์อาซ่งเจิน คนทั่วทั้งเขาชิงเฉิงล้วนเกรงอกเกรงใจนาง แต่โหวอิงจื้อแต่ไรมาไม่เคยเคารพนาง เห็นนางเป็นสหายรุ่นเดียวกัน ยามเกิดการโต้เถียงก็ไม่ยอมถอยให้แม้ก้าวเดียว สิ่งนี้เองที่ทำให้ซ่งหลีรู้สึกถึงความสนิทสนมระหว่างเพื่อนพ้อง

    แน่นอน บางครั้งคนที่รับอารมณ์ของโหวอิงจื้อเช่นนางก็ไม่พ้นเรียกเสี่ยวลิ่วมาฟังคำพูดระบาย

    เยียนเหิงกลัวมากที่จะเห็นซ่งหลีในอาการโกรธ คอยมองดูนางเดินไปอยู่ตลอด

    ซ่งหลีเจ็บป่วยบ่อยครั้งตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุนี้เยียนเหิงมักจะคล้อยตามนางด้วยความสงสารเหมือนนางคือน้องสาวเสมอ แต่เวลาเห็นซ่งหลีค่อนข้างเชื่อฟังโหวอิงจื้อผู้มีนิสัยดื้อรั้น มันมักขุ่นเคืองใจ พอนึกถึงเรื่องนี้เยียนเหิงก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย

    บางทีคงเหมือนที่นางบอก ข้าคือคนบ้ากระบี่ที่น่าเบื่อคนหนึ่ง

    รอจนซ่งหลีเดินไปไกลแล้ว โหวอิงจื้อและเยียนเหิงจึงนั่งเคียงกันอยู่บนหินผา ทอดตามองกลุ่มศิษย์ที่ยังคงฝึกกระบวนท่าเข้าสำนักอยู่

    เนิ่นนาน เยียนเหิงระดมความกล้าถามโหวอิงจื้อ

    “เสี่ยวอิง…เจ้า…ไม่ยินดี?”

    โหวอิงจื้อมิได้ตอบมัน แต่ถามกลับ “หลายปีมานี้เจ้าไม่เคยกลับบ้านเลยสักครั้ง ไม่คิดถึงหรือ”

    เยียนเหิงนิ่งเงียบ

    มันถือกำเนิดในครอบครัวยากจนในหมู่บ้านอินสุ่ยที่อยู่ด้านล่างเขา ไกลออกไปทางใต้สิบกว่าหลี่ ในปีนั้นเหอจื้อเซิ่งเข้าหมู่บ้านมารับสมัครศิษย์ บิดามารดาก็ให้เยียนเสี่ยวลิ่วติดตามขึ้นเขาชิงเฉิง มิใช่เพื่อให้โอกาสมันได้เป็นใหญ่เป็นโตอะไร เพียงแต่ที่บ้านลำบากเหลือเกิน เลี้ยงดูคนมากมายเช่นนี้ไม่ไหวอีกต่อไป จึงมอบมันให้ผู้อื่นทั้งที่ยังเด็กเช่นนี้ ตอนนั้นบิดามารดายังรับเงินทำขวัญห้าตำลึงของเหอจื้อเซิ่งอีกด้วย

    เป็นการขายบุตรโดยแท้

    * ไข่มุกในอุ้งมือ เป็นสำนวน หมายถึงบุคคลผู้เป็นที่รักดั่งหนึ่งสิ่งของล้ำค่า ต่อมามักใช้แทนบุตรธิดาอันเป็นที่รัก คล้ายกับภาษาไทยที่เปรียบลูกเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook