• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 1

    ‘ถึงแม้ม้วนภาพเหล่านี้ของท่านจะเป็นฉบับแท้จริง แต่ก็มิใช่ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด ชิ้นที่เป็นผลงานชิ้นเอกนั้นแท้แล้วอยู่ที่อาตมา’

    บัณฑิตแซ่เซียวแย้ง ‘นอกจาก ‘อารัมภกถาหลันถิง’ แล้ว โลกนี้ไม่มีทางมีฉบับใดดีไปกว่าของข้าได้’

    เปี้ยนไฉตอบ ‘อาตมามี’

    ‘ท่านมี?’

    …เปี้ยนไฉจนปัญญาจะย้อนนึกต่อ ‘อารัมภกถาหลันถิง’! แม้องค์จักรพรรดิในยามนั้นส่งคนมาขอมันไปหลายต่อหลายครั้ง แต่เพื่อปกป้องสมบัติล้ำค่าของจื้อหย่งต้าซือผู้เป็นอาจารย์ สายเลือดรุ่นที่เจ็ดของหวังซีจือ เขาจึงแสร้งทำเฉไฉไม่รับไม่รู้ท่าเดียวมาโดยตลอด จนคนที่องค์จักรพรรดิทรงส่งมาต้องกลับไปมือเปล่าเสียทุกครั้ง ทั้งที่ความจริงแล้ว สมบัติที่ว่านี้ถูกซ่อนอยู่บนคานหลังคาในกุฏิของเขามาโดยตลอด และไม่มีผู้ใดบนโลกนี้ล่วงรู้ แต่เมื่อคืนวาน เขาราวกับถูกภูตผีปีศาจสะกดก็ไม่ปาน ภายใต้การมอมเมาของบัณฑิตแซ่เซียว เปี้ยนไฉถึงกับปีนขึ้นไปบนคานหลังคา หยิบเอา ‘อารัมภกถาหลันถิง’ ออกมาจากช่องลับ ให้บัณฑิตแซ่เซียวผู้นั้นได้ดูเองกับมือ!

    ใช่แล้ว จนวันนี้เปี้ยนไฉถึงนึกขึ้นได้ ที่แท้สีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดของบัณฑิตแซ่เซียวตอนได้เห็น ‘อารัมภกถาหลันถิง’ นั้นไม่ใช่เป็นเพราะตื่นตะลึงที่ได้เห็นสมบัติล้ำค่า หากแต่เป็นเพราะตื่นเต้นดีอกดีใจที่แผนการชั่วร้ายของตนเองกำลังใกล้จะประสบผลสำเร็จเต็มทีแล้วต่างหาก!

    “สวรรค์! ทำไมข้ามันถึงได้โง่งมเช่นนี้!” เปี้ยนไฉตีอกชกหัวตนเอง

    วันนี้บัณฑิตเซียวออกจากวัดหย่งซินไปตั้งแต่เช้ามืดโดยไม่ล่ำไม่ลา ส่วนเปี้ยนไฉเองก็รู้สึกไม่สบายใจตลอดทั้งวัน ศึกษาธรรมะช่วงเย็นไปได้ไม่ทันไร เขาก็ต้องแอบย่องกลับเข้ามาที่ห้องเสียก่อน ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไป ก็พบว่าช่องลับบนคานหลังคานั้นถูกคนแงะเปิด พร้อมกับการหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยของ ‘อารัมภกถาหลันถิง’!

    “อาเฉิน! เร็วเข้า รีบพยุงข้าขึ้น ตามข้ามา!”

    “อาจารย์ ท่านจะไปไหน”

    “ก็ไปตามหาเจ้าเดรัจฉานแซ่เซียวนั่นไง!”

    อาเฉินไม่ขยับ “อาจารย์” น้ำเสียงของอาเฉินระคนไปด้วยความรู้สึกงุนงงหวาดหวั่น “คนผู้นั้น…เขากลับมาแล้ว”

    มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามายังวัดหย่งซินจริงๆ เปี้ยนไฉคุกเข่าแหงนหน้า แต่ด้วยเพราะแก่ชราสายตาฝ้าฟางทำให้เปี้ยนไฉไม่อาจเห็นใบหน้าของคนที่อยู่หน้าสุดได้ชัด…บัณฑิตแซ่เซียวคนนั้นงั้นหรือ แต่ทำไมเขาถึงได้แดงทั้งตัวแบบนั้น แดงราวกับอาบแสงอาทิตย์สีเลือดก็ไม่ปาน

    ในที่สุดคนคนนั้นก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเปี้ยนไฉ ยามนี้เขามองเห็นอีกฝ่ายได้ชัดแจ้ง คนผู้นี้คือบัณฑิตแซ่เซียวจริงๆ เพียงแต่เสื้อผ้าขาดวิ่นบนตัวก่อนหน้านี้กลายเป็นอาภรณ์ขุนนางสีแดงเข้มสิ้นแล้วก็เท่านั้น

    จู่ๆ อารมณ์แปรปรวนป่วนปั่นของเปี้ยนไฉก็สงบลง

    เซียวอี้พยายามไม่มองหน้าเปี้ยนไฉ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ยังผ้าแพรต่วนสีเหลืองในมือ เขาประกาศน้ำเสียงชัดแจ้ง “จักรพรรดิต้าถังทรงมีรับสั่ง พระเปี้ยนไฉซุกซ่อน ‘อารัมภกถาหลันถิง’ สมบัติของแผ่นดินไว้ โป้ปดมดเท็จไม่สิ้น หลอกลวงเบื้องสูง ยามนี้มีรับสั่งให้ขุนนางตรวจสอบเซียวอี้นำ ‘อารัมภกถาหลันถิง’ กลับไป เห็นแก่ที่เปี้ยนไฉมีใจคิดปกป้องสมบัติแผ่นดิน จึงทรงไม่ติดใจเอาความ อีกทั้งยังพระราชทานผ้าแพรไหมให้อีกสามพันพับ ข้าวสารสามพันกระสอบ” เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกระซิบพูด “เปี้ยนไฉ ขอบพระทัยเสียสิ”

    พระเปี้ยนไฉหมอบนิ่งอยู่กับพื้นเป็นนานไม่ยอมขยับ

    ด้วยเพราะรู้สึกผิดและนึกละอายแก่ใจ เซียวอี้จึงไม่อาจสะบัดแขนเสื้อหันหลังเดินจากไปได้ในทันที แม้วิธีการที่เขาใช้ออกจะต่ำช้าเกินไปสักหน่อย แต่หากไม่ใช่เพราะภิกษุเฒ่าไม่รู้ดีชั่ว ตัวเขาเองไหนเลยต้องใช้อุบายเช่นนั้นด้วย แต่ไม่ว่าจะเช่นไร ในเมื่อฝ่าบาททรงมีพระประสงค์ต้องการ ‘อารัมภกถาหลันถิง’ เขายังจะทำอันใดได้อีก!

    ขอเพียงทำตามราชโองการ ต่อให้ต้องเผาฆ่าแย่งชิงก็ล้วนเป็นเรื่องถูกต้องทั้งสิ้น

    การได้เป็นที่โปรดปราน รางวัลที่จะพระราชทานให้ รวมถึงชื่อเสียงลาภยศสมบัตินานาที่จะติดตามมาภายหลัง ทำให้สำนึกผิดชอบชั่วดีสุดท้ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด เซียวอี้เดินจากไปแล้ว วัดหย่งซินเงียบสงัดประหนึ่งตกสู่ความตาย

    อาเฉินสะอึกสะอื้นเรียก “อาจารย์!” เขาดึงร่างเปี้ยนไฉที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างของภิกษุเฒ่าปิดสนิท เลือดสดๆ ไหลออกมาจากมุมปาก…

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook