การได้รู้จักกับหญิงสาวชื่อริโกะเป็นเหตุการณ์น่าสนใจก็จริง แต่ภารกิจหลักในการเฟ้นหาบุคลากรของเขากลับยังไม่คืบหน้า นักประเมินผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นล้วนมีความสามารถเลิศล้ำ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับภาพเขียนตะวันตกแต่กลับเหมือนไม่มีความคิดเห็นของตัวเอง ทั้งที่อารมณ์ความรู้สึกนับเป็นอาวุธสำคัญที่สุดสำหรับนักประเมินพอๆ กับศิลปิน
แท็กซี่ลัดเลาะจากสถานีคันไนฝั่งตะวันออกขึ้นสู่เนินหน้าอาคารหลักของโยโกฮามะ เพรสซิเดนเชียลทาวเวอร์ แมนชั่นสูงตระหง่านในย่านชุมชนอันเงียบสงบ อัลลิงกัมรอจนรถจอดเทียบประตูหน้าแล้วชำระเงิน ก่อนเดินลงจากรถ
เขาตรงไปที่หน้าทางเข้า วางคีย์การ์ดหน้าเซ็นเซอร์ให้ประตูอัตโนมัติบานคู่เลื่อนเปิดแล้วก้าวเข้าไปในล็อบบี้
ชายสูงวัยจะตรงไปที่ลิฟต์แต่พลันชะงักฝีเท้า
สายตาไพล่มองในกระเป๋า มือล้วงกระเป๋ากางเกงสลับกับตบกระเป๋าเสื้อโค้ต
ไม่มี…กล่องไม้ขนาดเล็กหุ้มหนังสีดำใบนั้นหายไปไหน
ความร้อนรนพลุ่งพล่านทันที ในนั้นมีของล้ำค่าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก มันไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของยืมมาจากลูฟว์
อัลลิงกัมรีบย้อนนึก จริงสิ ตอนอยู่ที่พิพิธภัณฑ์มิตซูบิชิหมายเลขหนึ่ง เขารู้สึกว่ากระเป๋าเสื้อโค้ตโป่งขึ้นมาไม่น่าดูจึงล้วงมันออกมาวางไว้ข้างที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ตอนรินดะ ริโกะช่วยชงกาแฟให้…
เขารีบควักโทรศัพท์มือถือออกมา ต่อสายไปยังเลขหมายกลางของพิพิธภัณฑ์ ทว่ามีแต่เสียงรอสายซ้ำไปซ้ำมา ปลายสายไม่มีทีท่าจะรับ
วันนี้เป็นวันหยุดพิพิธภัณฑ์ ได้ยินว่าพวกนักประเมินจะอยู่ถึงแค่สี่โมงเย็น ขณะนี้ทุกอาคารคงปิดหมดแล้ว จะมีใครสังเกตเห็นของที่เขาลืมไว้แล้วช่วยนำส่งตำรวจบ้างไหมนะ เขาอาศัยอยู่ในแมนชั่นชั้นค่อนข้างสูง หลายคืนมานี้จึงต้องหลีกเลี่ยงอาฟเตอร์ช็อกด้วยการย้ายไปพักที่โรงแรมเทโคคุ บางทีตำรวจอาจโทรศัพท์ไปสอบถามพนักงานที่โรงแรมแล้วก็ได้…
อัลลิงกัมเริ่มรู้สึกถึงความยุ่งยากเพราะตัวเองเข้าพักโดยใช้ชื่อปลอม ที่อยู่ที่ลงไว้ก็เป็นแมนชั่นในย่านชินากาวะซึ่งห่างไกลความจริงอย่างสิ้นเชิง
บัญชีผู้เข้าพักของโรงแรมมักไม่มีใครให้ความสำคัญ แต่ที่จริงแล้วกฎหมายธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตบัญญัติไว้ว่าการให้ข้อมูลเท็จถือเป็นความผิด มันอาจทำให้เขาตกเป็นเป้าสงสัยและถูกสอบประวัติได้
ขณะชายสูงวัยได้แต่ยืนสับสนอยู่นั้น หูก็ได้ยินเสียงแหลมแว่วมา
เขาหันกลับไปที่ประตูทางเข้า พบหญิงสาวผู้หนึ่งในเสื้อโค้ตยาวกำลังยืนเคาะประตูอัตโนมัติอยู่ด้านนอก
ใครน่ะ เขาเดินไปหาอย่างประหลาดใจ เมื่อเข้าไปใกล้ประตูอัตโนมัติก็พบว่าฝ่ายตรงข้ามซึ่งพยายามชะโงกมองมาคือบุคคลคุ้นหน้า
“คุณ…รินดะ ริโกะ!?” อัลลิงกัมตกใจพลางก้าวไปหา
เมื่อเข้าไปประชิดจากด้านใน ประตูบานคู่ก็เลื่อนเปิดออกอย่างง่ายดาย ริโกะหดคอหลบความหนาวจัดพลางวิ่งเหยาะเข้ามายืนในล็อบบี้ “สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ คุณบราวน์ วันนี้ขอบคุณนะคะ”
“เธอมาทำอะไรที่นี่…” อัลลิงกัมถึงกับพูดไม่ออก
เพราะเขาสังเกตเห็นกล่องเล็กในมือริโกะ อีกฝ่ายยื่นให้พลางส่งยิ้ม “ฉันเอาของมาส่งค่ะ”