• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 3

    รถแล่นผ่านไปช้าๆ ลอดใต้ประตูเขตเหนือของตรอกผิงคัง

    เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่เข้ามาตรอกคณิกา ต้วนเฉิงซื่อจึงตื่นเต้นเสียจนลมหายใจติดขัด เมื่อครั้งเพิ่งกลับมาฉางอันนั้น เนื่องจากว่าเป็นคนในตระกูลของอู่หยวนเหิง จักรพรรดิยังพระราชทานพระวโรกาสให้ครอบครัวเขาเข้าเฝ้าด้วย แต่ว่าต้วนเฉิงซื่อจำได้ชัดเจนว่าเข้าเฝ้าจักรพรรดิครั้งนั้นตนเองคล้ายไม่ได้หวาดกลัวปานนี้

    ต้วนเฉิงซื่อลอบเปิดม่านรถมองออกไปด้านนอก เห็นถนนที่ปูด้วยอิฐเขียวราดน้ำสะอาดกวาดหมดจด ไม่มีฝุ่นเศษสกปรก สองฟากถนนล้วนเป็นกลุ่มเรือนขนาดเล็กงดงามประณีตเรียงรายหลังต่อหลัง ด้านหน้าประตูแต่ละบานม่านไผ่แขวนสูง บังบานประตูที่ปิดหนาแน่น ยามนี้พอดีเป็นเวลาหลังเที่ยง บนถนนแทบจะไม่เห็นคนเดินถนน ยิ่งไม่มีเครื่องดนตรีต่างๆ บรรเลงตามที่คาดคิดไว้ ทั้งตึกสงบเงียบงดงาม ราวกับภาพวาดทิวทัศน์แถบเจียงหนาน

    รถม้าจอดที่หน้าเรือนน้อยแห่งหนึ่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ คนรับใช้แซ่ล่ายกล่าวเสียงแหบแห้ง “คุณชายน้อย คือที่แห่งนี้เอง”

    ต้วนเฉิงซื่อกระโดดลงรถ เห็นบ้านหลังนี้แคบเล็กกว่าหลังอื่น อีกทั้งเป็นถนนตัน รอบบริเวณเงียบจนค่อนข้างวังเวง

    ต้วนเฉิงซื่อให้ลุงล่ายจอดรถแอบไว้และรอ ตนเองเหยียดสองขาที่อ่อนระทวย เดินขึ้นหน้าไปเคาะประตู

    ไม่นานนักบานประตูก็แง้มออกเล็กๆ มีคนพูดจากด้านใน “วันนี้ชิวตูจือ* งดรับแขก เชิญกลับไปเถิด” จากนั้นคิดจะปิดประตู

    ต้วนเฉิงซื่อคาดคิดเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว รีบดันประตูเอาไว้ “มีคนให้ข้าส่งสิ่งของมาให้ตูจือ”

    ประตูเปิดกว้างกว่าเดิมเล็กน้อย สตรีวัยกลางคนสวมชุดแพรไหมประดับหยกและมุกมากมายผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตู มองขึ้นๆ ลงๆ สำรวจต้วนเฉิงซื่อ “คุณชายน้อยผู้นี้มาแต่ที่ใด ผู้ใดให้เจ้าส่งของมา เอามาให้ข้า”

    “ให้ท่านไม่ได้ ข้าต้องมอบให้กับมือชิวตูจือเอง!” ต้วนเฉิงซื่อพูดอย่างจริงจัง “และข้าก็จะไม่บอกท่านด้วยว่าผู้ใดให้ข้าส่งของมา”

    แม่เล้าเริ่มลังเลใจ ดูหน้าตาและการแต่งกายของต้วนเฉิงซื่อ เห็นชัดเจนว่าชาติตระกูลสูง หรือว่าอาจเป็นถึงท่านอ๋องน้อยหนีออกมาจากในวัง นางครุ่นคิดอีกครา ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงเด็กน้อย ปล่อยเขาเข้าไปก็ไม่เป็นอันใด จึงยิ้มแย้มกล่าวว่า “ตามข้ามาสิ”

     

    เข้าประตูไปเป็นสวนขนาดเล็ก ภูเขาจำลองหินแปลก ไม้กระถางบ่อปลา ล้วนประณีตงดงาม แม่เล้าพาต้วนเฉิงซื่อเลี้ยวซ้ายวกขวาไปตามทางเดินในหอ ทำเอาเขาเลี้ยวหมุนมึนงงไปแล้ว ที่แท้เรือนนี้ภายนอกแคบลึก ด้านในกลับคล้ายแดนสวรรค์

    ในที่สุดมาถึงลานโถงด้านในอันมีระเบียงล้อมลานแห่งหนึ่ง วจีอ่อนหวานกลั้วเสียงหัวเราะดังออกมา มองผ่านเถาจื่อเถิงห้อยย้อยใต้ชายคาเข้าไป เห็นสตรีหลายคนอาภรณ์หลากสีสันล้อมอยู่รอบบ่อน้ำกลางลานโถง กำลังเสวนาหัวเราะสนุกสนาน

    แม่เล้าร้องบอก “ชิวเหนียง คุณชายน้อยท่านนี้มาหา”

    สตรีผู้หนึ่งได้ยินเสียงจึงหันหน้ามา พริบตานั้นต้วนเฉิงซื่อรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองร้อนวูบขึ้น จากคอถึงหลังใบหูล้วนร้อนผะผ่าว

    * ตูจือ แปลตรงตัวว่ารู้ทั่วทั้งนคร หรือรอบรู้ทั้งหมด ปัจจุบันมีหลายความหมาย ในสมัยถังเป็นคำเรียกหัวหน้าผู้ดูแลจัดการหอคณิกา หรือใช้เรียกหญิงคณิกาชื่อดัง โดยอย่างหลัง ‘ตูจือ’ สื่อนัยว่านามกระเดื่องไปทั่วนครหลวง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook