• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 5 บทที่ 2

    พิษที่เหยาเหลียนโจวถูก ข้าเป็นคนวาง

    เรื่องนี้มิเพียงไต้ขุยศิษย์น้องร่วมสำนักที่รู้ ต่งซานเฉียวและหานเทียนเป้าสำนักมี่จงก็เหมือนล้วนเดาออกแล้ว เยียนเหิงที่อยู่ในห้องด้านบนเองก็มองออก เหยียนชิงถงคิด หากว่าตนเองตัดสินใจปล่อยเหยาเหลียนโจวไปและเจรจาสงบศึกโดยพลการ พันธมิตรแตกแยก ซ้ำชื่อเสียงเจ้าภาพของมันคงย่อยยับโดยมิต้องกล่าว คนที่ไม่พอใจอาจจะเปิดโปงเรื่องวางยาพิษต่อเจ้าสำนักอู่ตัง…

    ด้านหนึ่งถูกสหายร่วมทางยุทธภพที่ผูกพันธมิตรเหยียดหยาม อีกด้านหนึ่งยังถูกสำนักอู่ตังเห็นเป็นศัตรูคู่แค้น…ผลสุดท้ายของสถานการณ์นี้ เหยียนชิงถงมิกล้าแม้แต่จะคิด

    แทบจะผลักตนเองเข้าสู่สถานที่ปิดตาย เหยียนชิงถงเองก็ใจหาย

    ต้องคิดอีก…คิดอย่างใจเย็น…

    ยามนี้มันมองเห็นในมือสหายร่วมสำนักซินอี้คนหนึ่งยังถือกระบี่ของเหยาเหลียนโจวอยู่ ในใจมันเปล่งแสงหนึ่งแวบ แล้วดึงกระบี่สันเดียวมาอยู่ในมือ

    ต้องสงบ…มิให้ถูกมองออก

    สีหน้ายิ้มน้อยๆ ที่แสดงความมั่นใจในตนเองออกมาอย่างเต็มเปี่ยม กล่าวได้ว่าเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเหยียนชิงถง มันถือกระบี่สันเดียวเอาไว้ ก้าวเดินลงบันไดมาอย่างแช่มช้า ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งความเป็นความตายนี้ มันพยายามแผ่บุคลิก เสแสร้งออกมาสุดกำลัง แม้แต่คนของฝ่ายตนเองก็หลงไปด้วย สีหน้าตึงเครียดของเหล่าผู้กล้าแต่ละสำนักล้วนเปลี่ยนแปลงเป็นผ่อนคลายลงเพราะมองเห็นมัน

    ผู้คุ้มภัยสิบกว่าคนคอยตามติดปกป้องอยู่ข้างกายเหยียนชิงถงเพราะคำสั่งก่อนหน้า มันยืนอยู่ห่างจากเบื้องหน้าศิษย์อู่ตังสิบกว่าก้าว แสดงกระบี่ในมือต่อฝ่ายตรงข้าม ไม่กล่าวสักประโยค

    ฝูหยวนป้าและถังเลี่ยงพลันเห็นกระบี่เจ้าสำนักตกอยู่ในมือศัตรูแล้ว กลิ่นอายโหดร้ายที่มีอยู่เดิมบนใบหน้าเข้มข้นรุนแรงขึ้น ฝูหยวนป้าที่นิสัยวู่วามที่สุดกัดฟันแน่นอย่างเดือดดาล จากนั้นค่อยยกดาบพัวเตาที่เปื้อนเลือดขึ้นสู่ฟ้า คล้ายจะฆ่าคนชิงกระบี่เสียตรงนั้น แต่เฉินไต้ซิ่วยื่นมือเป็นนัยหยุดยั้งมัน

    ท่าทางของฝูหยวนป้าความจริงทำให้เหยียนชิงถงหัวใจเต้นรัว แต่มันฝืนกลั้นหายใจไว้ ใบหน้าดูเหมือนไม่เปลี่ยนสี มันเพียงมองเฉินไต้ซิ่วที่ยืนอยู่ตรงกลางอย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นผู้นำคนทั้งสาม

    เฉินไต้ซิ่วที่ภายนอกดูสุภาพทรงภูมิ ยามนี้สายตาเย็นชาดุจน้ำค้างแข็ง มันเงยหน้าชั้นสองทว่ามองไม่เห็นห้องของเจ้าสำนักที่อยู่ด้านบนบันได และกลับมาจ้องมองเหยียนชิงถง

    แม้ว่ายังมีระยะห่างอยู่มาก ตรงกลางยังกั้นไว้ด้วยผู้คุ้มภัยหลายคน แต่เหยียนชิงถงเผชิญรับสายตาเฉียบคมนี้ ยังคงรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงเหมือนจะถูกฝ่ายตรงข้ามแทงกระบี่ทะลุหัวใจตลอดเวลา มันพยายามรักษายิ้มน้อยๆ อันแสนสงบนั้นเอาไว้สุดแรง และฝืนไม่มองกระบี่อู่ตังสว่างไสวเล่มนั้นที่ออกจากฝักมาอยู่ในมือเฉินไต้ซิ่วแล้ว ยังคงมิได้ส่งเสียง มันต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามหวั่นไหวก่อน

    สายตาเฉินไต้ซิ่วเบนไปยังกระบี่สันเดียวในมือเหยียนชิงถง มันไม่เหมือนฝูหยวนป้าและถังเลี่ยง มองเห็นกระบี่เจ้าสำนักอยู่ตรงหน้า แม้แต่ขนคิ้วก็มิได้กระดิกสักเล็กน้อย

    แต่ความจริงในใจเลือดลมพลุ่งพล่าน

    …เจ้าสำนักถูกพวกมันจับได้แล้วหรือ

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook