• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 6 บทที่ 1

    ไต้ขุยดึงเชือกบังเหียนหยุดม้าเบื้องหน้าพวกมันหลายก้าว ถือโอกาสกระโดดลงจากหลังม้า การเคลื่อนไหวรุนแรงนี้กระเทือนถึงอาการบาดเจ็บแขนซ้ายทำให้มันขมวดคิ้วเล็กน้อย

    “พี่จิง…ตามพวกท่านทัน ประเสริฐเหลือเกินจริงๆ…” ไต้ขุยหอบหายใจเล็กน้อย ปากที่เต็มไปด้วยหนวดเครากลับฉีกยิ้มกว้าง “ข้า…ข้า…”

    “พี่ไต้ มีอะไรค่อยๆ กล่าว” จิงเลี่ยเข้ามาประสานหมัด

    “คำพูดเป็นพิธีข้าพูดไม่เป็น จึงไม่อ้อมค้อม” ไต้ขุยสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งเฮือก “ศึกครานี้ สำนักซินอี้ของข้ากล่าวได้ว่าพ่ายแพ้ราบคาบจริงๆ! ยังมีเหยียนชิงถงทำให้เสียหน้า ช่าง…เฮ้อ สำนักอู่ตังเอาชนะพวกเราได้โดยแท้จริง”

    มันกล่าวพลางมองผ้าป่านที่มัดอยู่ตรงแขนซ้ายเพื่อระลึกถึงสหายร่วมสำนักซินอี้ที่รบจนตัวตายในครั้งนี้

    เยียนเหิงมองเห็นแขนซ้ายที่บาดเจ็บและพันปิดเอาไว้ของไต้ขุยมีคราบเลือดไหลออกมา เพราะควบม้าเร่งเดินทางปากแผลจึงปริอีกครั้ง มันจึงรีบหยิบสายคาดผ้าและยารักษาแผลออกมาจากถุงสัมภาระข้างอานม้า

    “พี่ไต้…ข้าจะเปลี่ยนยาพันแผลให้ท่านก่อน” เยียนเหิงเข้าไปปลดผ้าให้ มันเห็นแก่ความเคารพที่ไต้ขุยมีต่อตนเองและสำนักชิงเฉิง ซ้ำยังเคยเห็นไต้ขุยไปช่วยนางคณิกาที่ถูกพิษผู้นั้นโดยไม่สนชื่อเสียงสำนัก จึงประทับใจผู้กล้าผู้นี้มาโดยตลอด

    “น้องเยียน…ตัวบัดซบแซ่เหยียนผู้นั้นของสำนักข้าก็มีส่วนให้ร้ายเจ้า เจ้ากลับ…” ไต้ขุยขณะกล่าวสุ้มเสียงติดสะอื้นอยู่บ้าง

    “เรื่องก็ผ่านไปแล้ว” เยียนเหิงปลดผ้าปิดแผลที่พันอยู่นั้นอย่างระมัดระวัง “ข้ายังมีชีวิตอยู่ดีมิใช่หรือ”

    หู่หลิงหลันและถงจิ้งที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างก็แย้มยิ้ม

    “อนุชนสำนักเลื่องชื่อช่างต่างจากพวกเราจริงๆ” ไต้ขุยมองเยียนเหิงอย่างชื่นชมซ้ำยังกล่าวต่อจิงเลี่ย “คำพูดนั้นที่พี่จิงกล่าวบนหลังคา…เมื่อคืนข้านอนพลิกตัวไปมาครุ่นคิดอยู่ตลอด…ทำลายอคติต่อต่างสำนัก ศึกษาวิชายุทธ์ซึ่งกันและกัน คิดค้นวิชายุทธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าออกมาด้วยกัน กล่าวได้ประเสริฐเหลือเกินจริงๆ”

    “น่าเสียดาย…” จิงเลี่ยขมวดคิ้วถอนหายใจ “ไม่มีคนจับความได้”

    “มี!” ไต้ขุยตั้งหัวแม่มือหาปลายจมูกตนเอง “ที่แห่งนี้มีหนึ่งคน! หากไม่รังเกียจ ข้าปรารถนาร่วมเดินทางกับทุกท่านระยะหนึ่ง แลกเปลี่ยนวิชายุทธ์ซึ่งกันและกัน ขัดเกลาฝึกฝนไปด้วยกัน!

    กล่าวตามจริง ข้าคิดเช่นนี้ก็มิใช่ไม่เห็นแก่ตัว แต่ทั้งหมดเพื่ออนาคตของสำนัก ศึกเมื่อวานทำให้เห็นถึงความป่าเถื่อนของวรยุทธ์สำนักอู่ตัง สำนักซินอี้เรากับพวกมันเทียบกันความห่างชั้นมิอาจวัดคำนวณ…ตอนนี้แม้มีนัดหมายยุติศึกห้าปีนี้ แต่ระยะเวลานี้หากวรยุทธ์สำนักมิอาจพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ต่อไปก็ต้องเป็นศัตรูของสำนักอู่ตังเป็นแน่ ผลสุดท้ายก็เพียงแค่เอาชีวิตรอดไม่กี่ปี!

    ที่ข้าต้องการแลกเปลี่ยนวิชาเพราะอยากจะเรียนรู้ประสบการณ์กับเคล็ดลับของทุกท่าน เพื่อนำกลับไปสู่สำนัก ช่วยปรับปรุงวรยุทธ์ของสำนักซินอี้ ห้าปีให้หลังแม้ยังมิอาจสู้อู่ตังได้ แต่อย่างน้อยต้องให้พวกมันชดใช้บ้าง!”

    คำพูดอาจหาญนี้ของไต้ขุย เยียนเหิงฟังแล้วเลือดร้อนพลุ่งพล่าน มันรีบมองจิงเลี่ย

    “ข้ามีเหตุผลต้องปฏิเสธหรือ” จิงเลี่ยยิ้มอย่างเจิดจ้าพลางกล่าว ยื่นมือออกมาจับกับไต้ขุย

    รอยยิ้มนี้ของจิงเลี่ยเยียนเหิงเคยเห็นมาก่อนในตอนที่รู้จักกันบนเขาชิงเฉิงแรกๆ

    พวกพ้องที่มีปณิธานร่วมกันอย่างแท้จริง คนเดียวก็พอแล้ว

    บัดนี้มีเพิ่มอีกหนึ่งคน

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook