• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 6 บทที่ 1

    เยียนเหิงเปลี่ยนยาที่แขนให้ไต้ขุย พันผ้าห้ามเลือดใหม่อีกครั้ง ก่อนหน้าถงจิ้งและไต้ขุยยังมิได้ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ยามนี้จึงได้โอกาสแสดงคารวะซึ่งกันและกัน

    ไต้ขุยมิได้รู้ถึงที่มาที่ไปของถงจิ้ง เพียงเคยได้ยินนางกล่าวว่ากำลังเรียนกระบี่กับเยียนเหิง แต่ศึกหออิ๋งฮวากลับมองเห็นถงจิ้งใช้กระบวนท่าตัดการโจมตีที่แม้แต่เยียนเหิงเองก็ทำมิได้ กระบี่เดียวกลับประทุษร้ายมือกระบี่สายพลอีกาสำนักอู่ตัง ไต้ขุยประหลาดใจอย่างมาก แต่ก็มิกล้าถามดรุณีงามหยาดเยิ้มเพียงนี้ให้มากความ

    หรือว่านางมีอาจารย์ชื่อดังอีกคน?

    จิงเลี่ยตบไหล่ไต้ขุยอย่างดีใจ ไต้ขุยอายุมากกว่าจิงเลี่ยประมาณสิบปี ชื่อเสียงในยุทธภพก็โด่งดังอย่างมาก ขณะประลองที่โรงเตี๊ยมหลินเหมิน มันเคยล้มด้วยเงื้อมมือของจิงเลี่ยภายใต้สายตาที่จับจ้องของกลุ่มคน บัดนี้กลับบากหน้ามาอย่างไม่หลีกเลี่ยงแม้แต่น้อย ช่างเป็นผู้กล้าที่อาจหาญคนหนึ่งอย่างแท้จริง แม้วรยุทธ์จิงเลี่ยจะเหนือกว่า แต่ในใจอดมิได้ที่จะรู้สึกเลื่อมใสเคารพ

    “เอาล่ะ รีบขึ้นม้า” จิงเลี่ยดึงบังเหียนที่ปากม้าเอาไว้ “ข้าหิวแล้ว รีบไปกินข้าวกลางวันที่เมืองข้างหน้าเถอะ”

    ไต้ขุยหันหน้ามองดูเลี่ยนเฟยหงที่ยังคงอยู่ในระยะไกล “เจ้าสำนักเลี่ยนเหตุใดจึงอยู่ด้วย…เราไม่ไปทักทายก่อนหรือ”

    “ไม่ต้องสนใจ” จิงเลี่ยขึ้นม้าก่อนแล้ว ไต้ขุยนั้นไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อไม่กระจ่างว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกมันก่อนหน้าจึงจำใจฟังจิงเลี่ยเหยียบขึ้นโกลน

    “ระ…รอเดี๋ยว!”

    เลี่ยนเฟยหงตะโกนไปพลางควบม้ารีบเร่งมาไปพลาง จิงเลี่ยมองเห็นก็อดมิได้ที่จะแย้มยิ้ม

    ท่านเฟยหงดึงเชือกบังเหียนม้าเอาไว้ก่อนแล้วถอดหมวกไผ่สานลงทันที เผยผมเผ้ายุ่งเหยิงสีดอกเลา เปียเส้นเล็กที่ร้อยลูกปัดหลายเส้นฟูขึ้นมา

    “ขะ…ข้าก็เช่นเดียวกับเขา…” เลี่ยนเฟยหงชี้ไต้ขุย “จะร่วมเดินทางกับพวกเจ้า!”

    “เพื่ออะไรกัน” จิงเลี่ยยิ้มน้อยๆ พลางถาม

    ดวงตาของเลี่ยนเฟยหงมองถงจิ้งไม่หยุด แต่กลับมิได้กล่าวคำออกมา เหมือนหนุ่มน้อยมองเห็นดรุณีที่ชอบพอแต่มิกล้าเปิดเผย

    ถงจิ้งถูกตาเฒ่าผู้นี้จ้องมองก็อึดอัดอย่างมากจนขมวดหัวคิ้วแน่น

    เลี่ยนเฟยหงปลุกความกล้าในที่สุด ลงจากม้าเดินไปเบื้องหน้าถงจิ้ง

    “เป็นศิษย์ของข้า ดีไหม”

    เยียนเหิงและไต้ขุยได้ยินก็ตกตะลึง จิงเลี่ยกลับคล้ายไม่รู้สึกผิดคาด

    ดวงตาถงจิ้งเบิกโพลงโตเล็กน้อย จ้องมองเลี่ยนเฟยหงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าพักหนึ่งแล้วจึงส่ายหน้า

    “มิได้”

    เลี่ยนเฟยหงมิอาจเชื่อหูของตนเอง

    “ระ…รอสักครู่!” มันกล่าวอย่างรีบร้อน “เจ้าคงจะยังไม่รู้ว่าข้าเป็นใครกระมัง?”

    “ข้าฟังพี่จิงบอกแล้ว เป็นเจ้าสำนักของสำนักคงถง”

    “ตอนนี้มิใช่แล้ว…” เลี่ยนเฟยหงพึมพำกับตัวเอง จากนั้นรีบกล่าวเหมือนรู้ตัวว่ากล่าวคำผิด “ใช่ๆๆ! เป็นสำนักคงถง! สำนักคงถงหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่แห่งใต้หล้า ชื่อเสียงเทียบเท่าเส้าหลิน อู่ตัง ฮว่าซาน ชิงเฉิง เอ๋อเหมย!”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook