ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 6 บทที่ 2

นี่กลับหาใช่เรื่องที่เยี่ยเฉินยวนกังวลที่สุดไม่…เอ๋อเหมยจะทรยศก็ปล่อยพวกมันไปเถอะ คู่ต่อสู้ที่เคยพิชิตแล้วหนึ่งครั้ง มันมีความมั่นใจที่จะเอาชนะอยู่ตลอดเวลา

เยี่ยเฉินยวนอยู่ที่เอ๋อเหมยนานเช่นนี้ แม้กระทั่งได้ยินข่าวเหยาเหลียนโจวเข้ากวนจงเพียงลำพังก็มิได้เร่งกลับไปเขาอู่ตัง ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อเรื่องสองเรื่อง

เรื่องแรกคือต้องซึมซับและศึกษาแก่นแท้วรยุทธ์ที่สั่งสมมาหลายสิบรุ่นของสำนักเอ๋อเหมย นี่คือโอกาสทองที่ผู้ชอบการต่อสู้คนใดก็ตามล้วนไม่ยอมพลาด อนึ่งนักสู้บ้าคลั่งที่เกิดมาเพื่อกระบี่เช่นเยี่ยเฉินยวนผู้นี้ ครึ่งปีที่ผ่านมามันใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วยามอยู่ในหอตำรานี้ทุกวันเพื่อศึกษาค้นคว้าเพลงทวนคัมภีร์มวยและเคล็ดลับวิถีจิตที่ตกทอดมาในแต่ละรุ่นของสำนักเอ๋อเหมยอย่างละเอียด

แต่เพียงอ่านตำราย่อมยังห่างไกล ไม่เพียงพอ…วิถียุทธ์ต้องอาศัยผู้อื่นถ่ายทอด ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ตัวจริงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ตำราชั้นสูงก็เป็นเพียงแค่เศษกระดาษกองหนึ่ง

ภายใต้การสั่งการของเยี่ยเฉินยวน อวี๋ชิงหลินสมญา ‘ทวนแปดมังกร’ อดีตเจ้าสำนักเอ๋อเหมยและศิษย์ทรงคุณวุฒิ ล้วนหมุนเวียนกันสาธิตวิชายุทธ์ทุกประเภทของสำนัก จะเปิดเผยวิชาลับของสำนักอันประเมินค่ามิได้ต่อหน้าผู้พิชิตโดยไม่ให้รั่วไหล พวกมันย่อมไม่สมัครใจ แต่มีทางเลือกอะไรอีกเล่า นับแต่อวี๋ชิงหลินเปิดขุนเขารับทัพเดินทางไกลในวันนั้น พวกมันก็ไม่มีทางให้ปฏิเสธอีกแล้ว

สำนักเอ๋อเหมยสมกับที่ตั้งตระหง่านอยู่ในยุทธภพหลายร้อยปี สำนักใหญ่สุดยอดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าอู่ตัง วิชาทวนพลองของมัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้แรงหรือกลยุทธ์กระบวนท่าล้วนโดดเด่นยิ่งนัก วรยุทธ์ของอวี๋ชิงหลินเจ้าสำนัก แม้ยังคงห่างกับเหอจื้อเซิ่งแห่งสำนักชิงเฉิงที่อยู่ร่วมกันในซื่อชวนขุมหนึ่ง แต่ทักษะทวนใหญ่เอ๋อเหมยมือเดียวยังคงทำให้เยี่ยเฉินยวนมองดูจนต้องชมเชย

…ที่เอ๋อเหมยพ่ายแพ้ให้อู่ตัง คือปณิธาน

เยี่ยเฉินยวนแม้ถนัดใช้เพียงเพลงกระบี่ สำนักอู่ตังเองก็มิได้ฝึกวิชาทวนเป็นหลัก แต่วิชายุทธ์ใดๆ ก็ตามล้วนมีจุดที่เชื่อมถึงกัน ในครึ่งปีนี้มันพยายามซึมซับและทำความเข้าใจแก่นแท้ของวิถียุทธ์เอ๋อเหมยอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะนำกลับเขาอู่ตัง ช่วยให้วรยุทธ์สำนักอู่ตังพัฒนาขึ้นอีกขั้น สำเร็จงานครองอำนาจใต้หล้าไร้เทียมทาน

เยี่ยเฉินยวนชมดูการแสดงยุทธ์ของเหล่าศิษย์เอ๋อเหมย นอกจากศึกษาวรยุทธ์อย่างละเอียด ในขณะเดียวกันก็เพื่อเรื่องที่สองคือคัดเลือกศิษย์เยาว์วัยที่มีคุณสมบัติแฝงจากในนั้น นำเข้าสู่อาณาเขตเขาอู่ตัง

นี่คือวิถีกระทำตลอดมาหลังจากอู่ตังพิชิตแต่ละสำนัก สำนักที่ยอมจำนนในอดีตล้วนเป็นเพียงสำนักเล็กๆ จำนวนหนึ่ง ผู้ที่คุ้มค่าให้คัดเลือกจึงมีน้อยจนนับได้ แต่สำนักใหญ่เช่นเอ๋อเหมยนี้ที่ยืนหยัดไม่ถูกโค่นล้มมาได้หลายปีย่อมเต็มไปด้วยตัวเลือกชั้นดี ผู้ที่มีความสามารถพอจะกราบเข้าสำนักอู่ตัง มีพลังแท้โดยกำเนิด บางคนในนั้นเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว มีความผูกพันลึกซึ้งต่อเอ๋อเหมย ยากทำให้พวกมันสวามิภักดิ์อู่ตังทั้งหมดหัวใจ ด้วยเหตุนี้เยี่ยเฉินยวนจึงคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน และเลือกเพียงผู้เยาว์วัย

เพียงแต่คุณสมบัติแฝงและอายุล้วนยังคงเป็นเรื่องรอง จะกราบเข้าสู่สำนักอู่ตังยังต้องมีเงื่อนไขสำคัญยิ่งกว่าอีกข้อหนึ่ง คือยืนกรานแสวงหาความปรารถนาอันร้อนแรงที่แข็งแกร่งที่สุด