• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับหลันถิงซวี่ ตอนที่ 2

    (3)

     

    หลังเสร็จสิ้นการออกว่าราชกิจในยามเช้า ว่ากันตามปกติแล้วองค์จักรพรรดิเซี่ยนจงมักทรงมีรับสั่งให้ขุนนางที่ทรงไว้วางพระทัยสองสามคนอยู่ต่อ เพื่อถกเรื่องสงครามปราบปรามอำนาจหัวเมืองทั้งหลายยังตำหนักเหยียนอิง ในเวลานี้ด้วยเพราะองค์จักรพรรดิทรงยืนกรานหนักแน่นว่าจะปราบปรามอำนาจผู้ครองหัวเมืองชายแดนพวกนั้นลงให้จงได้ ดังนั้นตลอดหลายปีมานี้จึงทรงมีรับสั่งให้เคลื่อนทัพมิได้ขาด ถึงแม้จะเห็นผลสัมฤทธิ์อยู่บ้าง แต่ท้องพระคลังและกำลังทหารกลับขาดแคลนจนกลายเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา สงครามปราบปรามอำนาจหัวเมืองไหวซีตกอยู่ในสภาวะไม่มีใครยอมใคร ยิ่งสงครามดำเนินยืดเยื้อมากเท่าใด เสียงเรียกร้องหาสันติภาพในราชสำนักก็ยิ่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ ขุนนางราชสำนักจำนวนไม่น้อยต่างพากันทูลขอให้องค์จักรพรรดิทรงยุติการกรีธาทัพที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประชาและสิ้นเปลืองทรัพย์สินเงินทองของแผ่นดิน แล้วหันไปใช้ไม้อ่อนกับไหวซีเพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแทน ทำให้จักรพรรดิเซี่ยนจงที่ทรงสนับสนุนการใช้กำลังปราบปรามผู้ครองหัวเมืองชายแดนอย่างสุดกำลังต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    องค์จักรพรรดิเซี่ยนจงทรงมีพระอุปนิสัยแข็งกร้าวเย่อหยิ่ง หากให้ว่ากันตามความรู้สึกแท้จริงของพระองค์แล้ว องค์จักรพรรดิเซี่ยนจงไม่มีทางทรงยอมประนีประนอมกับเหล่าขุนนางทรยศเนรคุณเด็ดขาด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เหล่าขุนนางราชสำนักที่ยืนกรานให้ทำศึกต่อซึ่งมีอยู่ไม่มากนักจึงกลายเป็นเสาเอกในใจของพระองค์ กลายเป็นคนที่ทรงหวังพึ่งพิงมากที่สุด หัวหน้าสำนักตรวจการเผยตู้ก็เป็นหนึ่งในนั้น การเรียกตัวให้เข้าเฝ้ายังตำหนักเหยียนอิงหลังว่าราชกิจเสร็จ เผยตู้คือหนึ่งในขุนนางคนสำคัญที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมประชุมมิได้ขาด ส่วนเผยตู้เองก็ช่วยองค์จักรพรรดิคิดกำหนดแผนการ ช่วยคลี่คลายอุปสรรคเรื่องรบกวนพระทัยทั้งหลายอย่างสุดกำลังความสามารถ

    แต่การเข้าเฝ้ายังตำหนักเหยียนอิงในวันนี้เผยตู้กลับมิได้ตั้งอกตั้งใจเหมือนเช่นทุกครั้ง กว่าจะเลิกประชุมก็ต้องรอจวบจวนยามเซิน* อัครเสนาบดีอู่หยวนเหิงกับหัวหน้าสำนักตรวจการเผยตู้เดินเคียงไหล่ มุ่งหน้าตรงไปยังสำนักราชเลขาธิการที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น พระราชวังต้าหมิงดูงามระยับจับตา ส่องประกายวับวาวจนคนลืมตาแทบไม่ขึ้น

    ขณะเดินไปได้ครึ่งทาง อู่หยวนเหิงก็ถามเผยตู้ขึ้น “วันนี้ท่านมีความในใจกระนั้นหรือ” ด้วยเพราะต่างมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ดังนั้นเขาถึงได้กล้าเอ่ยปากถามออกมาเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ผู้คนล้วนต่างรู้ดีว่าอู่หยวนเหิงถูกผู้คนเรียกขานว่าเป็นบุรุษผู้โอหังถือดี ไม่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านมาแต่ไหนแต่ไร

    น้ำใจของอัครเสนาบดีแน่นอนว่าเผยตู้ย่อมน้อมรับ เขาเล่าถึงต้นสายปลายเหตุออกมาให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่คิดปิดบัง

    ประมาณครึ่งเดือนก่อน เผยตู้ได้รับจดหมายจากเจินซื่อ** ภรรยาม่ายของเผยเซิงผู้เป็นพี่ชาย ในจดหมายแจ้งเอาไว้ว่าหลานสาวคนโตเผยเสวียนจิ้งจะมาฉางอันเพื่อเยี่ยมท่านอา อีกทั้งยังระบุวันเดินทางไว้ชัดแจ้ง

    เผยตู้คิดคำนวณระยะเวลาในการเดินทางเป็นอย่างดี เมื่อสิบวันก่อนเขาได้สั่งบ่าวไพร่ในบ้านให้ไปเฝ้าประตูทงฮว่าที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฉางอันเพื่อคอยรับเผยเสวียนจิ้ง ทั้งนี้ก็ด้วยเพราะเส้นทางสัญจรหลักจากผูโจวเข้าฉางอันนั้นต้องผ่านประตูทงฮว่าพอดี หากแม้นไม่มีเรื่องราวผิดปกติอันใดเกิดขึ้นเผยเสวียนจิ้งไม่มีทางเข้าฉางอันผ่านประตูเมืองอื่นได้

    *ยามเซิน หมายถึงช่วงเวลา 15.00 น. ถึง 17.00 น.

    **ธรรมเนียมการเรียกขานสตรีที่แต่งงานแล้วของจีนจะใช้คำว่าซื่อ (แปลว่านามสกุล) ต่อท้ายนามสกุลเดิมของสตรี บางครั้งอาจเพิ่มนามสกุลของสามีไว้หน้าสุดเพื่อระบุให้ชัดขึ้นก็มี

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook