• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ บทที่ 1

    อารมณ์ของหมาปาผ่อนคลายกว่าผู้เฒ่าจวงมากนัก มันรับกระบอกไม้ไผ่มาจากลูกน้องที่ติดตามมา จิบสุราเย็นอึกหนึ่งพอประมาณ จากนั้นก็มองผู้เฒ่าจวงพลางยิ้มเล็กน้อย

    ผู้เฒ่าจวงจงใจแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ดูดกล้องยาเส้นหนึ่งคำ แต่ในใจกลับลอบด่าทอหมาปาอย่างหมดความอดทน

    ผู้ที่นั่งอยู่ในศาลาเหมือนกันคือผู้ตรวจการโจวจากจวนว่าการ กับผู้คุ้มกันที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาห้าคน

    ใต้เท้าผู้ตรวจการมิได้นำผู้ใต้บังคับบัญชามามากนัก ผู้คุ้มกันห้าคนนั้นก็ต่างพกมาเพียงกระบอง มิได้เหน็บดาบที่ข้างเอว พาคนมามากขึ้นอีกก็เปล่าประโยชน์ การต่อยตีกันระดับนี้มิใช่แค่มันซึ่งเป็นผู้ตรวจการตัวเล็กๆ คนเดียวจะสามารถควบคุมได้ มันและผู้ใต้บังคับบัญชาเพียงแค่นั่งอยู่ในศาลาอย่างเงียบๆ เฝ้ารอคอยให้ในนาทีสุดท้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะขอยอมจำนนก่อน

    ที่แห่งนี้คือชานอำเภอก้วนเซี่ยนแห่งซื่อชวน* ศาลาชมทิวทัศน์นี้มีประวัติความเป็นมานับร้อยปี นามว่า ‘ศาลาอู่หลี่’ ชื่อเรียกบอกความหมายว่าตั้งอยู่บนทางห้าหลี่นอกอำเภอก้วนเซี่ยน

    บริเวณหลายสิบหลี่รอบอำเภอก้วนเซี่ยน การต่อยตีกันของตระกูลต่างๆ ในแต่ละหมู่บ้านตำบลเกิดขึ้นไม่รู้กี่มากน้อยแล้ว ล้วนแล้วแต่นัดหมายกันมาสะสางบนพื้นที่โล่งหน้าศาลาอู่หลี่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วาจาสะสาง หรือจะใช้อาวุธสะสาง คนในอำเภอว่ากันว่าพื้นที่โล่งผืนนี้ไม่มีต้นไม้เจริญเติบโต นั่นก็เพราะพื้นดินในหลายสิบปีมานี้แปดเปื้อนคำสาปแช่ง ด้วยโลหิตของผู้ที่ตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้นมีมากจนเกินไป

    มองออกไปจากศาลา ทิวเขานอกอำเภอก้วนเซี่ยนเรียงสลับซับซ้อน ทั้งต่างยังเป็นป่าลึก นับแต่โบราณอำเภอก้วนเซี่ยนเป็นสถานที่ชุกชุมไปด้วยโจรเถื่อน ในเมืองหลวงมีคำกล่าวโบราณว่า ‘ซมซานก็ให้ซมซาน ซมซานแล้วก็หนีไปอำเภอก้วนเซี่ยน!’ ความหมายก็คือถ้าหากเกิดเรื่องในเมืองหลวง พอพ่ายแพ้เข้า อย่างมากก็ไปอำเภอก้วนเซี่ยน หนีไปเป็นโจรในป่าลึก! ด้วยเหตุนี้สามารถรับรู้ได้ว่าชาวอำเภอก้วนเซี่ยนนั้นห้าวหาญ

    ก็เหมือนกับผู้เฒ่าจวงผู้นี้ วันนี้คือตาเฒ่าเจ้าของที่นาผู้มีหน้าตาคนหนึ่งในตำบลสุ่ยโถวแห่งอำเภอก้วนเซี่ยน ซ้ำยังเป็นเถ้าแก่ใหญ่ของร้านค้าอีกหลายร้าน ทว่าตอนหนุ่มเดิมทีมิใช่โจรหรอกหรือ ทำการค้ามาหลายปี หลังสะสมทรัพย์สมบัติได้ก้อนหนึ่ง มันปรารถนาที่จะลงหลักปักฐาน และด้วยในหลายปีมานี้ทางการก็ไร้อำนาจที่จะปราบปรามมัน สองฝ่ายปรองดอง ผู้เฒ่าจวงได้รับการอภัยโทษแต่ต้องรับใช้ทางการ โจรผู้สังหารคนโดยไม่กะพริบตาแต่เดิมกลับกลายเป็นเศรษฐีใบหน้าอ้วนกลมผู้หนึ่ง จนถึงบัดนี้ก็ล่วงเลยไปยี่สิบปีแล้ว

    หมาปาเองก็มิใช่คนที่ดีอะไรนัก เดิมทีอยู่ในเมืองก็เป็นหัวโจกรีดไถทรัพย์โดยเฉพาะ งานรองลักลอบค้าขาย คบค้าสมาคมกับโจรป่าในละแวก พื้นเพสกปรกเช่นเดียวกันกับผู้เฒ่าจวง

    ส่วนการวิวาทของคนสองร้อยในครั้งนี้ คนมากมายในที่นี้ล้วนไม่รู้ว่าสาเหตุที่ตีกันนั้นคืออะไร เดิมทีเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว คนตัดไม้คนหนึ่งหาบฟืนไปเร่ขายในเมือง เกิดโต้เถียงกันกับลูกหาบขึ้น ถูกรุมกระทืบจนขาหัก คนตัดไม้เกณฑ์พรรคพวกในหมู่บ้านมาแก้แค้นในเมือง ฝ่ายตรงข้ามเองก็เรียกพรรคพวกมา สองฝ่ายไปหาลูกมือสมทบชั้นแล้วชั้นเล่า หลังจากต่อยตีกันเล็กๆ หลายรอบ ตีกันจนล้มตายไปสามคน คนที่บาดเจ็บก็มียี่สิบกว่า สองฝ่ายต่างต้องการเงินทองมาชดเชย จึงนำอันธพาลมามากขึ้นกว่าเดิมเพื่อหวังแบ่งผลประโยชน์กัน…ที่แท้เป็นเพียงความพยาบาทที่คนมุทะลุไม่กี่คนผูกขึ้น พัฒนาจนกลายมาเป็นการคุมเชิงกันของคนใหญ่คนโตในอำเภอ วันนี้จึงนัดมาตัดสินกันที่นี่

    ผู้ตรวจการโจวมองดูคนสองร้อยนอกศาลาเหล่านั้นพลางทอดถอนใจ

    * ซื่อชวน (เสฉวน) เป็นมณฑลหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีชื่อเรียกย่อว่า ‘ชวน’ และ ‘สู่’ และเนื่องจากในสมัยฉินฮั่น ซื่อชวนเป็นที่ตั้งของแคว้นปาและแคว้นสู่ จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ‘ปาสู่’

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook